ส่องกระแสดินแดนพันธสัญญา ยิวทะลักจนคนผวากลายเป็น “ปายเลสไตน์ แม่ฮ่องสอน”

แม่ฮ่องสอน - แกะรอยกระแสยิวทะลัก-ตั้งชาบัดเฮาส์/ราใบ ทำกิจกรรมทางศาสนาทุกสุดสัปดาห์ ทำธุรกิจแย่งงานไทย บ้างก่อพฤติกรรมกร่างกลางเมือง จนคนผวาผุดดินแดนพันธสัญญา “ปายเลสไตน์ แม่ฮ่องสอน” พบนักท่องเที่ยวอิสราเอลส่วนใหญ่มาหลังปลดเกณฑ์ทหาร อยู่ยาว-ประจำ ราว 10 ครอบครัว


หลังมีการอ้างข้อมูลชาวยิวอิสราเอลที่หยุดพักการสู้รบสงครามกับเขตกาซา ปาเลสไตน์ และกับเลบานอน กว่า 30,000 คน มุ่งหน้าย้ายมา "ตั้งถิ่นฐาน" ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ภายใต้การหนุนหลังของสมาคมยิว Chabad ที่แผ่อิทธิพลทั่วโลก ให้การสนับสนุน เผยแพร่ว่อนโลกโซเชียล

รวมทั้งเว็บไซต์ Chabad ยิวในไทย ประกาศเชิญชวนชาวยิวย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ อ.ปาย แม่ฮ่องสอน อ้างว่าสงบสุขและสวยงามกว่าอิสราเอล มีการตั้ง Chabad of Pai ตั้งอยู่บริเวณ ถ.รังสิยานนท์ ซอย 2 หมู่ 4 ต.เวียงใต้ อ.ปาย ด้านหลัง สภ.ปาย ทำกิจกรรมทางศาสนาทุกศุกร์-อาทิตย์ ปัจจุบันเหลือกิจกรรมสำคัญเฉพาะวันศุกร์และเสาร์

เปิดธุรกิจหลายอย่างเพื่อรองรับสังคมขยายชาวยิว เช่น ร้านอาหาร รีสอร์ต ร้านตัดผม สารพัดอาชีพสงวนของชาวไทย เพื่อรองรับชาวยิวโดยเฉพาะ มีชาวยิวอิสราเอลลงทะเบียนใน อ.ปาย 31,735 คน เข้าๆ ออกๆ แต่ตั้งถิ่นฐานอยู่ยาวประมาณ 3,000 คน

ยิ่งก่อกระแสให้ผู้คนผวาว่าจะเกิด “ปายเลสไตน์ แม่ฮ่องสอน” ดินแดนพันธสัญญาตามความเชื่อของชาวยิวขึ้นมา

กระทั่ง 7 ก.พ.68 ร้านค้าผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.ปาย เริ่มติดป้ายไม่ต้อนรับชาวอิสราเอล โดยมีการติดป้ายข้อความ “No Israel here!”

8 ม.ค.68 มีตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ อ.ปาย ประมาณ 15 คน รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผกก.สภ.ปาย และที่ว่าการอำเภอปาย ขอให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกรณีชาวต่างชาติลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งประชุมเพื่อสะท้อนปัญหาที่เกิดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมกับ ผกก.สภ.ปาย และ จนท.ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ส่วนหนึ่งของการประชุมมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมของชาบัดเฮาส์ปาย และพฤติกรรมที่มักสร้างปัญหาให้ชุมชนของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล

ทั้งนี้ ตามข้อมูลต่างด้าวที่เข้าพักใน อ.ปาย ที่มีการแจ้ง ตม.แม่ฮ่องสอน พบว่า ตั้งแต่ 1 ม.ค.-13 ก.ย.67 นักท่องเที่ยวสัญชาติอิสราเอลแจ้งเข้าพักในพื้นที่ อ.ปาย รวม 15,108 คน เฉพาะห้วงเดือน ส.ค.67 มีชาวอิสราเอลเข้าพักในพื้นที่อำเภอปาย 3,474 คน ขณะที่ก่อนหน้านี้อยู่ในระดับ 1,000-2,000 กว่าคนต่อเดือน

ขณะที่ชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ใน อ.ปาย แบบประจำ มีอยู่ประมาณ 10 ครอบครัว รวมราว 50 คน ส่วนใหญ่อยู่อาศัยกระจายตัวไม่ห่างจากชาบัดเฮาส์ หลัง สภ.ปาย ที่มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ โดยมีครอบครัว “ราไบ” หรือผู้ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนายิวเป็นผู้นำชุมชน

หัวหน้าครอบครัวส่วนมากเป็นข้าราชการเกษียณ และมีภรรยาเป็นชาวไทย ส่วนใหญ่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจ แต่จะเปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเข้าพักทำกิจกรรมเล็กน้อย เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลจะกังวลเรื่องอาหาร และความปลอดภัย

นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น-วัยกลางคน อายุเฉลี่ย 22-50 ปี สืบเนื่องจากประเทศอิสราเอลมีนโยบายด้านความมั่นคง เมื่อเยาวชนชาย-หญิงอายุครบ 18 ปี ต้องเข้าเกณฑ์ทหาร ชาย 3 ปี และหญิง 2 ปี หลังจากปลดประจำการทางภาครัฐจะมีค่าชดเชยให้ตามตำแหน่งของแต่ละคน จึงทำให้เยาวชนที่ปลดจากทหารนิยมใช้เงินดังกล่าวท่องเที่ยวพักผ่อน


ด้านฝ่ายปกครองชี้แจงล่าสุดว่า จำนวนของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลใน อ.ปาย ที่ถูกเผยแพร่ไปก่อนหน้ามียอดสูงกว่า 30,000 รายนั้น เป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีของปีที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นรองนักท่องเที่ยวอังกฤษด้วยซ้ำ เพราะปกติกลุ่มของชาวอิสราเอลจะเข้าและออกราวเดือนละ 3,000 ราย และส่วนมากจะพบว่าเป็นกลุ่มคนที่มาเที่ยวซ้ำหรือพักอยู่เป็นเวลานานๆ ตามวีซ่า แต่ตัวเลขที่แน่นอนนั้นจะมีอีกหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจท่องเที่ยว ด่านตรวจคนเข้าเมือง จัดหางาน

ขณะที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปายนายหนึ่งบอกว่าเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับกับจำนวนของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่เพิ่มขึ้น เพราะอย่างน้อยยังมีนักท่องเที่ยวที่เป็นคู่กรณีทางสงครามเข้ามาเที่ยวด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการที่อิสราเอลเข้ามาอยู่ในพื้นที่และมีการก่อตั้งสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนาเป็นของตัวเองในรูปแบบของนิติบุคคล ที่จะมีกิจกรรมทุกวันศุกร์และวันเสาร์ ที่นัดมารวมตัวกันประกอบกิจกรรมพร้อมกับรับประทานอาหารร่วมกันคราวละ 150-200 คน

ภาพที่ชาวบ้านพบเห็นว่ามีตำรวจเข้าไปทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยหรือบอกว่าตำรวจไปรับจ้างดูแลนั้น จริงๆ แล้วทางตำรวจเข้าไปดูแลตามหน้าที่ที่ทางสถานทูตอิสราเอลร้องขอมาอย่างเป็นทางการ ในการเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้พลเมืองของตนเอง แต่จากที่ตำรวจส่งกำลังเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยและแต่งกายเต็มยศ กลายเป็นว่าได้รับค่าจ้างหรือเลือกปฏิบัติ ต่อมาเพื่อปัญหาภาพลักษณ์ให้ดูเบาลง ก็ได้เฝ้าดูอยู่โดยรอบตามหน้าที่และอาจจะอยู่ในรูปแบบที่เป็นกำลังนอกเครื่องแบบแทน

ส่วนที่ทุกคนมองว่าภายในสถานที่ลึกลับ รั้วสูง ชวนสงสัยนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนคิดได้ แต่ทางตำรวจสามารถเห็นความเคลื่อนไหวได้ทุกอย่าง เพราะมองจากชั้น 3 ของ สภ.ปายก็เห็นได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว