จันทบุรี - ย้ายแล้ว 1 รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม สภ. สายตรวจตู้ยามวังแซ้ม ถูกระบุเอี่ยวขบวนการรุกป่าเขาบ่อ จันทบุรี อยู่ระหว่างสอบข้อเท็จจริง ขณะรอง ผบก.ภ.จันทบุรี ยันไม่มีขบวนการทุนจีนรุกป่า มีเพียงกลุ่มคนไทยที่อยู่ระหว่างสอบปากคำ
จากกรณีที่ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าและตัดไม้บนเขาบ่อทอง ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีขบวนการบุกรุกป่าและเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองและอดีตนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงกลุ่มทุนจีน ที่ต้องการที่ดินทำเลดีเพื่อทำสวนทุเรียนขนาดใหญ่
นอกจากนั้น ยังได้แฉถึงพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจบางนาย ยศ ‘ร.ต.ท.’ ที่ร่วมในขบวนการเปิดป่า ตัดไม้ ขนไม้และปรับสภาพพื้นที่ป่าสมบูรณ์จนได้รับความเสียหาย กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ได้เปิดหลักฐานเกี่ยวกับ ร.ต.ท. นายดังกล่าวว่าอยู่สังกัดใด
ทำให้ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบคดีนายทุนจีน นักการเมืองท้องถิ่น บุกรุกป่าเขาบ่อทอง และมอบหมายให้ พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ซึ่งรับผิดชอบคดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนคดีที่ สภ.มะขาม พร้อมเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องเข้าสอบปากคำเพิ่มเติมนั้น
ล่าสุด วันนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ประติพัฒน์ ภูมลี ผกก.สภ.มะขาม ได้ลงนามในคำสั่งที่ 14/2568 ให้ ร.ต.ท.คำมี (ขอสงวนนามสกุล) รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม สภ.สายตรวจตู้ยามวังแซ้ม ให้มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาประจำ สภ.มะขาม ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
เนื่องจากตู้ยามวังแซ้ม เป็นจุดให้บริการประชาชนที่ใกล้กับจุดที่มีการบุกรุกป่า และเป็นจุดแรกที่ใช้สำหรับตรวจบุคคลเข้าออก ในพื้นที่ แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนต่อ นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา ส.ว.จันทบุรี ว่ามีการตัดไม้ทั้งกลางวันและกลางคืน ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และยังมีขบวนการขนไม้ออกจากป่าเพื่อนำไปแปรรูป แต่เพราะเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงไม่ทราบ จนสุดท้ายได้นำปัญหาการบุกรุกเข้าอภิปรายในสภา
การอภิปรายในสภาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่กำลังลุกลามอย่างหนักในพื้นที่ป่าจังหวัดจันทบุรี ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่หยุดยั้ง หรือปราบปราม ทรัพยากรป่าไม้ใน จ.จันทบุรี จะไม่เหลือไว้ให้คนรุ่นหลัง ที่สำคัญป่าไม้ใน จ.นทบุรี ถือเป็นป่าที่สมบูรณ์มากอีกแห่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ที่จำเป็นจะต้องรักษาไว้
ด้าน พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เผยถึงการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องว่าขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 3-4 ปาก รวมทั้ง 2 แม่ลูกที่อ้างสิทธิเป็นผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าว ประมาณ 900 ไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ขอดูเอกสารการครอบครองแต่ 2 แม่ลูก อ้างว่า เป็นที่ ภ.บท.5 ที่อ้างว่าครอบครองมานานหลายสิบปีและจะต้องนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
“สำหรับที่แปลงนี้เท่าที่ดูพยานให้การว่าที่แปลงนี้ได้มีการขายไม้ยาง ให้บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ที่เข้ามาเหมาซื้อต้นยางและนำเครื่องจักรกลเข้ามาตัดและถางทางเพื่อนำไม้ยางออกไป สำหรับสัญญาซื้อขายขณะนี้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนพัวพัน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้มีคำสั่งให้ออกนอกพื้นที่ไปก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ ส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานตรวจสอบ”
ยืนยันว่าในพื้นที่แห่งนี้ไม่มีทุนจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนกรณีเรื่องตำรวจนั้น เราต้องทำความจริงให้กระจ่างเพื่อให้เกิดความสบายใจกับประชาชน