เชียงใหม่ – ผู้กำกับ สภ.เมืองเชียงใหม่ท้าทีมงาน “ส.ส.ปูอัด” แฉหลักฐานและเข้าแจ้งความกรณีกล่าวอ้างว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรีดเงิน 4 แสนบาท เพื่อแลกกับการช่วยให้หลุดคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน ขณะเดียวกันตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว หากพบว่าไม่เป็นความจริง เตรียมแจ้งความ พร้อมยืนยันตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วนชัดเจนจึงออกหมายจับได้
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ออกหมายจับนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ "ส.ส.ปูอัด" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคไทยก้าวหน้า คดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 02.00น.วันที่ 9 ม.ค.68 และผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความในช่วงเช้าวันเดียวกันนั้น โดยการออกหมายจับดังกล่าวได้มีการประสานงานตามลำดับขั้นตอนกฎหมายถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอตัวมาดำเนินคดี ซึ่งต่อมาทางฝ่าย "ส.ส.ปูอัด" ได้มีการโต้แย้งคนใกล้ชิดว่าเป็นการสมยอมและอ้างด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงินจำนวน 400,000บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น
วันนี้(10 ก.พ.68) พันตำรวจเอกปรัชญา ทิศลา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นรับทราบแล้วเกี่ยวกับกรณีที่คนใกล้ชิดของ "ส.ส.ปูอัด" อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงินจำนวน 400,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งถือว่าสร้างความเสียหายให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก จึงอยากให้ทางผู้ที่กล่าวอ้างดังกล่าวนำพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนั้น โดยทางพลตำรวจตรียุทธนา แก่นจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายใดมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจำนวนดังกล่าวจริง จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดทันทีทั้งทางวินัยและดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามหากพบว่าไม่เป็นความจริง ก็จะต้องมีผู้รับผิดชอบกับการกล่าวอ้างดังกล่าว เพราะสร้างความเสียหายให้กับตำรวจ
สำหรับคดีดังกล่าวนี้นั้น ถือว่ามีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องทั้งด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและระบบการเมืองการปกครอง ดังนั้นในการดำเนินคดีจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำอย่างรอบคอบรัดกุมมากที่สุด โดยยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนนับตั้งแต่ที่ทางผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี จนกระทั่งมีการออกหมายจับในที่สุด ซึ่งพอทราบอยู่แล้วว่าทางฝ่ายผู้ต้องหาน่าจะต้องพยายามแก้ต่างต่อสู้คดีว่าเป็นการสมยอม อย่างไรก็ตามตั้งข้อสังเกตว่าหากเป็นการสมยอมกัน แล้วเหตุใดทางผู้เสียหายจึงต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งทางผู้เสียหายได้ให้การไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไปเที่ยวสนุกสนาน แต่ไม่ได้ต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์
โดยพยานหลักฐาน ทั้งภาพกล้องวงจรปิด ผลตรวจทางการแพทย์ และรายละเอียดต่างๆ อยู่ในสำนวนคดีทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ในเบื้องต้นทางทีมงานของผู้ต้องหาได้ติดต่อประสานงานมาแล้วว่าผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัว อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจน แต่คาดว่าอาจจะเป็นช่วงหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้หากผู้ต้องหาเข้ามอบตัวด้วยตัวเอง ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาและทำการสอบปากคำ เสร็จแล้วพิจารณาปล่อยตัวไปทันที จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการสรุปสำนวนคดีเพื่อส่งอัยการดำเนินการในชั้นศาลต่อไป
