เมียวดี - ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) เปิดอกคำต่อคำ..ย้ำโดนจีนเทาหลอกลงทุน ก่อนผุดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ยันบีจีเอฟ.พยามแก้ปัญหามาตลอด ช่วยเหยื่อต่อเนื่อง ล่าสุดมีต่างชาติอีกนับร้อย-ส่วนใหญ่เป็นอินโดฯ ที่รอส่งกลับผ่านไทย
นับเป็นครั้งแรกที่พันโทหน่ายหม่อง โซ รองผู้บังคับกองพันบีจีเอฟ.( กองกำลังพิทักษ์ชายแดน)ประจังหวัดจำเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จังหวัดตาก ยอมรับขพูดถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่จีนเทาเมืองเมียวดีว่า ช่วงแรกๆกลุ่มทุนจีนที่ไปลงทุนขอเสนอใช้พื้นที่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟ. ไม่ได้บอกว่า จะไปทำคอลเซ็นเตอร์ที่ทำให้ประชาชนทั่วโลกเดือดร้อน
และที่รับการดูแลคุ้มครองให้พื้นที่ใช้เพราะอยากให้พื้นที่ชายแดนรัฐกะเหรี่ยง มีการพัฒนา ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีงานทำ แต่พอนานเข้า เริ่มมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ฝ่ายบีจีเอฟ.เองไม่สามารถแก้ไขปัญหาทีเดียวได้ เพราะต้องดูเรื่องของความเดือดร้อนของประชาชนด้วย รายได้ที่ได้มาจากนักลงทุนจีนนั้นนำไปพัฒนาถนน และสะพาน สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อประชาชน จึงต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
พันโทหน่ายหม่อง โซ กล่าวว่า กองกำลังบีจีเอฟ.ได้พยายามแก้ไขมาตลอด โดยได้ประสานทางการเมียนมา สถานทูต และทางเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย ส่งเหยื่อที่ตกเป็นแก๊งคลอเซ็นเตอร์ ไปกว่า 2,000 คน และมีการส่งตัวอย่างต่อเนื่องไปทางเมืองย่างกุ้ง และส่วนมากไปทางประเทศไทย เพราะสะดวกกว่าใกล้กว่า
“ปัญหานี้พยายามแก้ไขอยู่ และทางบีจีเอฟ.พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทย และเชื่อมั่นจะสามารถแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่วมกันได้”
พันโทหน่ายหม่อง โซ กล่าวด้วยว่า ไทยกับเมียนมาเหมือนบ้านพี่เมืองน้องกันมานาน ชาวกะเหรี่ยง และชาวเมียนมาให้ความเคารพพระเจ้าอยู่หัวไทย และเคารพในรัฐบาลไทย ประชาชนชาวไทย ทางการไทยควรจะพิจารณาทบทวนกับการตัดกระแสไฟฟ้า และผ่อนคลายเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะชาวเมียนมาได้รับความเดือดร้อนมาก ในส่วนของกองกำลังทหารไม่ต้องการอะไร เป็นห่วงประชาชนเท่านั้น
ล่าสุดพันโทหน่ายหม่อง โซ บอกว่า มีชาวต่างชาติอีกนับ 100 คน ส่วนมากเป็นอินโดนีเซีย ที่ฝ่ายบีจีเอฟ.ไปช่วยเหลือมาจากพื้นที่คอลเซ็นเตอร์ โดยจะส่งให้ทางการไทยในเร็วๆนี้ ซึ่งการช่วยเหลือต้องช่วยออกมาได้ครั้งละจำนวนน้อย และพอรวบรวมได้มากจะส่งไปรวมตัวกันที่บริเวณด่านพรมแดนแม่สอด เมียวดี สะพาน 2