กาญจนบุรี - ด่วน! สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกาญจนบุรี ชวนชาวกาญจน์ร่วมด้วยช่วยกันบริจาคข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม สนับสนุน จนท.ดับไฟป่า “เสือไฟ” หลังเสบียงเริ่มขาดแคลน
วันนี้ (8.ก.พ.) นายศิวะปกรณ์ วิเชียรเพริศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผอ.ทสจ.) จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศที่สถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 25.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศปานกลาง แนะนำให้เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
สำหรับข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิเอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบวีอาร์เอส (VIIRS) ตรวจจุดความร้อน (Hotspot) ย้อนหลังกลับไป 24 ชั่วโมง พบจำนวน 68 จุด พื้นที่รับผิดชอบ ป่าอนุรักษ์ 45 จุด ป่าสงวน 7 จุด เขต ส.ป.ก.2 จุด พื้นที่เกษตร 7 จุด ริมทางหลวง 2 จุด และอื่นๆ 10 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดกาญจนบุรีอยู่ในกลุ่มป่าที่ 12 เป็นกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ ประกอบด้วย พื้นที่ป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติไทรโยค อุทยานแห่งชาติลำคลองงู และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ
พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่หนึ่ง ป่าเขาพระฤาษีและป่าเขาบ่อแร่แปลงที่สอง ป่าโรงงานกระดาษไทยแปลงที่หก และป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย รวมเนื้อที่ 5,338,251.70 ไร่ ซึ่งมีความแห้งแล้งทำให้เกิดสถานการณ์ไฟป่าก่อนภาคอื่นๆ โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส.มอบหมายให้ นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็นหัวหน้าศูนย์บัญชาการประจำกลุ่มป่ารอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเริ่มพบจุดความร้อน (Hotspot) ประมาณปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดเกิดจากฝีมือมนุษย์ ปัจจุบันชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า หรือหน่วย “เสือไฟ” มีอัตรากำลังพลเข้ามาปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า ในกลุ่มป่า 12 ไม่รวมหน่วยงานที่อาสาเข้ามาร่วมสนับสนุน ทั้งหมด จำนวน 699 นาย ทั้ง 699 นายได้แบ่งกำลังกันออกไปประจำสถานีควบคุมไฟป่าต่างๆ จำนวนตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่
โดยลักษณะภูมิประเทศกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรีนั้น สภาพส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชันที่สลับซับซ้อนและมีหน้าผาสูง เมื่อพบจุดความร้อน (Hotspot) ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า “เสือไฟ” ต้องปฏิบัติภารกิจด้วยความลำบาก อีกทั้งต้องเสี่ยงเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าในพื้นที่โดยเฉพาะช้างป่า แต่ถึงแม้ทุกคนจะเหนื่อยล้า แต่ไม่มีใครย่อท้อเพราะเจ้าหน้าที่ทุกนายผ่านการฝึกอบรมมาจนมีความชำนาญ
แต่ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีความอดทนมีร่างกายที่แข็งแรงและเชี่ยวชาญปานใดก็ตาม แต่คำพังเพยที่กล่าวเอาไว้ว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง (An army marches on its stomach) ยังใช้ได้อยู่เสมอ จุดความร้อนหรือ Hotspot ไม่ได้เลือกเองว่าจะเกิดขึ้นเวลาใด แต่มันเกิดขึ้นได้ 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน
กำลังพลที่มีอยู่น้อยนิดต้องเดินเท้าบุกป่าฝ่าดงขึ้นไปดับไฟป่าบนยอดเขา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงได้มีสุขภาพที่ดี หรือให้มีผลกระทบจากฝุ่นพิษ PM2.5 ให้น้อยที่สุด ขณะนี้ทราบว่า สิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตอยู่ในป่าของเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเริ่มขาดแคลนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี จึงประกาศขอรับการสนับสนุนอาหารแห้งเพื่อนำไปเป็นเสบียงให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า “เสือไฟ” สิ่งที่จำเป็นที่ต้องการ เช่น ข้าวสาร หมูเนื้อแดด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง น้ำดื่ม รวมถึงยารักษาโรค เป็นต้น
โดยชาวกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงที่มีความห่วงใยสามารถสนับสนุนได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี หรือติดต่อประสานงานเพื่อให้ทราบข้อมูลการบริจาคได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-3451-4910