วุฒิสภา ร่วมกรมป่าไม้ ตรวจสอบกลุ่มทุนจีนบุกรุกป่าทำสวนทุเรียนใน จ.จันทบุรี

จันทบุรี - คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมาธิการกฎหมายและยุติธรรม วุฒิสภา ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนกลุ่มทุนจีนรุกป่าทำสวนทุเรียนใน อ.มะขาม จ.จันทบุรี หลังพบมีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าโดยผิดกฎหมาย

 วันนี้ (7 ก.พ.)​ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมด้วย นายกิติศักดิ์ หมื่นศรี รองประธานกรรมาธิการกฎหมายและยุติธรรม นายจำลอง อนัตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา รองเลขาธิการคณะกรรมาธิการติดตามงบประมาณ และนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีร้องเรียนกลุ่มทุนจีนรุกป่าทำสวนทุเรียนใน อ.มะขาม จ.จันทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าโดยผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ พบว่าตั้งแต่ปลายปี 2567 จนถึงต้นปี 2568 ชุดพยัคฆ์ไพร ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการบุกรุกป่าเพื่อทำสวนทุเรียนแล้วหลายกรณี ซึ่งบางกรณีมีการอ้างเอกสารสิทธิโดยไม่ถูกต้อง และบางกรณีเป็นการรุกล้ำป่าสงวนโดยไม่มีอนุญาต ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีแล้วหลายคดี รวมถึงการตรวจยึดพื้นที่ที่พบว่ามีการบุกรุก 2 คดีใหญ่ที่ดำเนินการแล้ว

โดยคดีแรก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดพื้นที่ 105 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว พบการปรับไถพื้นที่ ขุดสระน้ำและตัดไม้ คาดว่าเตรียมใช้ปลูกทุเรียน เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีและคำนวณค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมกว่า 5.89 ล้านบาท

ส่วนคดีที่สอง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 มีการตรวจยึดพื้นที่ 1,848 ไร่ 3 งาน 4 ตารางวา ครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติหลายแห่งใน อ.แก่งหางแมว และ อ.เขาคิชฌกูฏ พบว่าเป็นแปลงขนาดใหญ่ที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนและคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว


พบเครือข่ายทุนจีนและนักการเมืองเอี่ยว

นายชีวะภาพ ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เผยว่า จากการขยายผลตรวจสอบพบว่าขบวนการบุกรุกป่ามีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองและอดีตนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงกลุ่มทุนจีน ที่ต้องการที่ดินทำเลดีเพื่อทำสวนทุเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วง และคณะกรรมาธิการทั้ง 3 คณะจะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ตำรวจในพื้นที่ ทางคณะกรรมาธิการกฎหมายและยุติธรรม วุฒิสภา จะรับไปตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเพื่อให้ขบวนการบุกรุกป่าถูกหยุดยั้งอย่างจริงจัง


เปิดช่องทางให้ประชาชนร้องเรียนผ่านโครงการ “ส.ว. พบประชาชน”

ทั้งนี้ วุฒิสภาเตรียมเปิดตัวโครงการ “ส.ว. พบประชาชน” ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้ประชาชนสามารถร้องเรียนปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมและที่ดินโดยตรงกับสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งท่านมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ลงนามเห็นชอบโครงการดังกล่าวแล้ว

และวุฒิสภาและกรมป่าไม้ยืนยันว่า จะเดินหน้าตรวจสอบและดำเนินคดีอย่างเข้มข้น เพื่อปกป้องทรัพยากรป่าไม้และรักษาสิทธิของประชาชนต่อไป