ตาก/เมียวดี – พบ “ชเวโก๊กโก่-KK ปาร์ค” ฐานใหญ่กาสิโน-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ / สแกมเมอร์ ฝั่งเมียวดี ยังปั่นไฟใช้ หลังไทยตัดการจ่ายไฟ-ระงับส่งน้ำมันข้ามแดนแม่สอด ขณะที่น้ำมันฝั่งเมียนมาเริ่มขาดแคลน ปั๊มเล็กปิดระนาว-ปั๊มใหญ่ยังเปิด แต่จำกัดปริมาณการเติม แถมราคาขยับขึ้นต่อเนื่องทั้งเบนซิน/ดีเซล
วันนี้(7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากอ.แม่สอด จังหวัดตาก ว่า หลังจากทางการไทยได้ตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ฝั่งเมียนมา ที่บริเวณจังหวัดเมียวดี 2 จุด ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และเพิ่มมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมียนมา เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการสแกมเมอร์ออนไลน์ กับการค้ามนุษย์ ที่ใช้กระแสไฟฟ้าตามรูปแบบต่างๆ
ซึ่งทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงในเมียนมาที่จังหวัดเมียวดีเกิดภาวะขาดแคลน สถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ในตัวเมืองเมียวดีของเมียนมา ยังเปิดให้บริการแต่จำกัดการเติม แต่สถานีขนาดเล็กปิดบริการชั่วคราว เนื่องจากภาวะขาดแคลนน้ำมัน โดยรถจักรยานยนต์ จำกัดเติมได้คันละ 5,000 จ๊าต(80.38 บาท) และ รถยนต์จำกัดคันละ 20,000-30,000 จ๊าต(321.51 - 482.27 บาท) ส่วนราคาน้ำมันดีเซลล่าสุดราคา 3,960 จ๊าต/ลิตร(63.66 บาท) สูงขึ้นขึ้น 300 จ๊าต เบนซิน953,620 จ๊าด/ลิตร(58.19 บาท) สูงขึ้น 70 จ๊าต
กลุ่มที่เดือดร้อนมากที่สุดคือ กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ใช้รถจักรยานยนต์ ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ เพราะไม่สามารถน้ำรถจักรยายนต์ข้ามมาอำเภอแม่สอดเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เว้นแต่รถยนต์เท่านั้น ที่สามารถขับมาเติมตามปั๊มน้ำมันในเขตไทยได้
ชาวเมียนมาที่เมียวดีแจ้งว่า ขณะนี้สถานที่ราชการ, ตลาดบุเรงนอง และโรงพยาบาล มีการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟ และบ้านเรือนของประชาชนบางส่วนไฟโซล่าเซลล์ในการให้แสงสว่าง สำหรับประชาชนทั่วไป ใช้ตะเกียงน้ำมันแทน
ส่วนในตัวเมืองโก๊กโก่ หรือชเวโก๊กโก่ ตรงข้ามบ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด และบ้านวังแก้ว ตำบลแม่ปะ อ.แม่สอด มีการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลง 50 % เช่นเดียวกับ KK Park ตรงข้ามบ้านแม่กุใหม่ท่าซุง ต.แม่กุ อ.แม่สอด มีการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟเป็นส่วนใหญ่ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลง 40 %