แม่ฮ่องสอน – คนปายใจชื้น ตม.ขับ 4 นักท่องเที่ยวยิวออกนอกพื้นที่-ส่งกลับประเทศทันที..แฉวีรกรรมฉาวทั้งอาละวาดกลาง รพ.ปาย ไม่จ่ายเงิน ขโมย,ทุบประตูอีอาร์,ด่าหมอ พยาบาล ,สูบกัญชาคา รพ. แถมเปิดร้านสอนขับรถ เปิดโบสถ์ และให้ตำรวจไปเฝ้า-รถชนรถล้มมาบ่อยๆ ไม่มีใบขับขี่
กรณีที่มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล 4 ราย เข้าไปก่อเหตุและสร้างความวุ่นวายถึงในพื้นที่ของโรงพยาบาลปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ต่อมาก็ถูกดำเนินคดีเปรียบปรับไปคนละ 3,000 บาท ก่อนกลายเป็นประเด็นกระฉ่อนไปทั่วประเทศ เมื่อแพทย์และพยาบาลโพสต์แฉว่า เจอปัญหาเหล่านี้บ่อยครั้งจนแทบอยากจะลาออกหรือย้ายออกไปจากอำเภอปาย
ซึ่งทางด้านผู้บัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสนใจและสั่งการให้ทางสถานีตำรวจภูธรปาย ทำการสืบสวนและรายงานผล พร้อมกับหาแนวทางร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน เพื่อหามาตรการป้องกันเหตุไม่เกิดขึ้นอีก
กระทั่งมีการสั่งการ พ.ต.ท.ทรงกริช ออนตะไคร้ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.แม่ฮ่องสอน พ.ต.ท.วิชัย ปันนา สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมดำเนินการตรวจสอบและติดตามตัวของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลทั้ง 4 คน พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน นำตัวมายัง สภ.ภูธรปาย เมื่อบ่ายวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
พร้อมแจ้งคำสั่งเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร ต่อขาวอิสราเอลทั้ง 4 รายทันที ประกอบด้วย Mr.Daniel Gagaev อายุ 24 ปี Mr.Aviv Rom อายุ 26 ปี Mr.Or Emanoel Ashton อายุ 25 ปีและ Mr.Dan Nisko อายุ 25 ปี และนำตัวส่งไปยังส่งไปยังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและผลักดันกลับประเทศต่อไป
ทันทีที่กระแสข่าวออกไป ผู้คนในพื้นที่อำเภอปายต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่ามาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่ชัดเจนและสร้างขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่และผู้คนที่อยู่ในพื้นที่มากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องทนกับปัญหาของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม มักจะก่อเหตุทั้งลักขโมย ก่อความเดือดร้อนรำคาญไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งน่าจะเป็นมาตรการที่ใช้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวเจ้าปัญหาไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตามได้อีกทางหนึ่งได้เป็นอย่างดี
นายเจริญ แดงเกตุ หนึ่งในผู้ประกอบการรายหนึ่งที่เปิดกิจการที่อำเภอปายมากว่า 30 ปี ยอมเปิดเผยข้อมูลกับทีมข่าว ว่า ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของอำเภอปาย ส่วนหนึ่งมาจากผู้ประกอบการเองไม่ได้คุยกันถึงกติกาของสังคม แต่ผู้คนที่มากขึ้น เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเองก็ต้องจัดลำดับของการแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด
อย่างเรื่องเสียงดังจากการจัดงานรื่นเริงที่ไปรบกวนชาวบ้านหรือชุมชน ที่สามารถแก้ไข โดยให้ทางผู้ประกอบการและส่วนราชการเปิดเวทีมาพูดคุยกัน มาทำข้อตกลงร่วมกัน ในลักษณะของประชาพิจารณ์หรือประชาคม น่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะเดิมทีนั้นเมืองปายอยู่ร่วมกันแบบพี่น้อง แต่ผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาก็ต้องปรับตัวเช่นกัน เพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 3-4 วันก็กลับออกไป แต่เราจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าที่เดินทางเข้ามาที่เมืองปายนี้จะต้องมีเรื่องของศิลปวัฒนธรรมแบบเมืองปายที่ชัดเจน
ส่วนกรณีเกิดเหตุจากชาวอิสราเอลทั้ง 4 คนป่วนที่โรงพยาบาลนั้น มองว่าเรามีกฎหมายอยู่แล้ว แต่น่าจะมาจากตัวบุคคลมากกว่า เพราะทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่ดีก็มีจำนวนมากกว่า การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวยิวในระยะหลังนี้ก็น่าจะมีส่วนของปัญหาที่เพิ่มขึ้นได้บ้าง น่าจะต้องเพิ่มป้ายเตือนให้มากขึ้นและครบทุกภาษา
ขณะที่ พ.ต.ท.ชินน์ สนธิ รองผกก.สืบสวนสอบสอน สภ.ปาย กล่าวถึงกรณีปัญหาในพื้นที่ปาย ว่า กรณีนักท่องเที่ยวของอำเภอปายที่เพิ่มมากขึ้นนั้น ก็พยายามประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวทุกชาติ ได้ทราบถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.จราจร การสูบบุหรี่หรือกัญชาในที่สาธารณะ รวมถึงกรณีอื่นๆ ก็มีการดำเนินคดีและมีการผลักดันออกนอกพื้นที่มาตลอด
โดยเฉพาะปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวมักกระทำผิดนั้น ก็จะต้องดำเนินคดีทั้งร้านให้เช่ารถและนักท่องเที่ยวผู้ขับขี่ หากตรวจพบว่าปล่อยให้เช่าโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ก็พบว่าสถิติการจับกุมเพิ่มมากขึ้น แต่จะต้องตรวจสอบเปรียบเทียบกับสถิติของปีที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับวันเกิดเหตุชาวยิวอาละวาดกลาง รพ.ปาย (2 ก.พ.) ดังกล่าว เพจ “หมอบ่น AggressiveDoctor” ได้ออกมาแชร์เรื่องราวของหมอที่ประจำอยู่ในโรงพยาบาลในอำเภอปาย เล่าถึงปัญหาแบบนี้ซ้ำๆ คือ เจอคนไข้ชาวต่างชาติ ระบุว่าคือประเทศอิสราเอล ได้เข้ามารักษาแล้วด่าทอบุคลากรทางการแพทย์ จนถึงการทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาล และยังเผยอีกว่าฝรั่งพวกนี้ยังเปิดร้านสอนขับรถ ทั้งที่ทุกครั้งที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนมักจะไม่มีใบขับขี่
มีการระบุแคปชันว่า “เพลียกับพวก ห..นี่ #เมืองปายไม่น่าอยู่แล้ว” พร้อมแนบภาพที่เป็นข้อความที่หมอเป็นคนพิมพ์ ระบุว่า “สวัสดีค่ะ หนูเป็นแพทย์ รพช.อยู่ที่อำเภอปาย จังหวัดชายแดนที่มีฝรั่งอิสราเอลมาอาศัยอยู่เยอะมาก ทุกวันที่ได้ตรวจจะเจอปัญหาซ้ำๆ อาทิเช่น ชี้หน้าด่าหมอ วุ่นวาย ล่าสุดโชว์นิ้วกลางใส่หมอ,ไม่เชื่อหมอประเทศไทย
แต่มาตรวจ (ส่วนมากจะมานอกเวลาราชการ) แล้วบอกจะถามหมอตัวเอง ว่าหมอตัวเองสั่งให้ทำแบบนี้, สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล ชาร์จแบตฯ โทรศัพท์ในโรงพยาบาล,ไม่จ่ายเงิน ขโมย,ทุบประตูอีอาร์, เปิดร้านสอนขับรถ เปิดโบสถ์ และให้ตำรวจไปเฝ้า,รถชนรถล้มมาบ่อยๆ ไม่มีใบขับขี่,ชอบด่าพยาบาล ไม่ยอมให้เจาะเลือด ไม่ยอมให้ทำแผล..
ซึ่งเคยส่งเรื่องไปให้อำเภอ ร้องเรียนไปแล้ว แต่ว่าอำเภอแจ้งกลับมาว่าอย่าทำลายการท่องเที่ยวแบบนี้ หนูร้องเรียนใครได้อีกบ้างไหม เหนื่อยมากๆ กับการคุยกับคนไข้อิสราเอล รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย ถ้าไปเจอข้างนอก กลัวจะโดนรุม สุดท้ายคงไม่พ้นได้ลาออก
นอกจากนี้ทางเพจได้เผยคลิปภาพเพิ่มเติม เป็นเหตุการณ์ที่ชาวต่างชาติที่ระบุว่าคือประเทศอิสราเอล 2 คน หญิงและชาย ได้สูบกัญชาภายในพื้นที่ของโรงพยาบาล และได้ถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนอีกด้วย”