xs
xsm
sm
md
lg

นายสิบโหดทำร้ายแม่ยายเลือดอาบหลังถูกห้ามไม่ให้เอาลูกสาววัย 2 ขวบเข้าไปอยู่ในค่ายด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ทหารหนุ่มยศนายสิบฉุนเฉียว ภรรยาไปทำงานต่างจังหวัด เตรียมพาลูกสาว 2 ขวบเศษไปอยู่ในค่าย ร.8 ขอนแก่น โดนแม่ยายขวาง รัวหมัดใส่ศีรษะแตกเลือดอาบเย็บ 4 เข็ม ภรรยาทนไม่ไหวร้องต้นสังกัดจนถูกสั่งย้ายไปอยู่ค่ายที่โคราช ด้านแม่ยายลั่นห้ามย้ายกลับมาขอนแก่นอีก


ชาวเน็ตแชร์ว่อนคลิปทหารหนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียวเข้ามาที่บ้าน แล้วขนของใช้ของลูกสาววัย 2 ขวบ ทั้งขวดนม ผ้าอ้อม เพื่อจะพาลูกสาวไปอยู่ในค่ายทหารด้วย แต่แม่ยายห้ามไม่ให้เอาไปเนื่องจากยังเล็กไม่สมควรที่จะพาไปด้วยเพราะงานในค่ายทหารนั้นวุ่นวาย และแม่ยายก็เลี้ยงหลานสาวคนนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ทหารหนุ่มลูกเขยกลับเดินปรี่เข้าไปชกแม่ยายหลายครั้งต่อหน้าลูกสาว 2 ขวบที่ส่งเสียงร้องไห้ จนศีรษะแม่ยายแตกเลือดอาบแล้วพาลูกสาวไปอยู่ในค่ายด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 14.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยแม่ยายได้นำคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ และใบรับรองแพทย์ผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เธียรธาวิน สีทะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด  จ.ขอนแก่น ทันที


ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่เกิดเหตุบ้านของแม่ยาย คือ น.ส.รุ่งอรุณ สมวงศ์ษา อายุ 52 ปี ที่บ้านเลขที่ 484 บ้านเหล่านาดี ม.11 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีทหารค่ายเดียวกันกับลูกเขยลงพื้นที่มาพูดคุยและแจ้งในส่วนการดำเนินการของทางผู้บังคับบัญชาที่สั่งย้ายลูกเขยโหดรายนี้ภายใน 24 ชม. ไปประจำที่ค่ายทหารใน จ.นครราชสีมาทันที และไม่ให้กลับมาประจำที่ค่ายทหารใน จ.ขอนแก่นอีก พร้อมรับฟังความประสงค์ของแม่ยายเพื่อนำกลับไปรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ

โดยแม่ยายได้ขอความประสงค์ 2 อย่าง คือ ไม่ให้ย้ายกลับมาอยู่ที่ จ.ขอนแก่นอีก และขอสิทธิ์แม่ในการเลี้ยงดูหลาน เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด โดยทางทหารที่ลงพื้นที่มาก็จะได้นำไปรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป

น.ส.รุ่งอรุณ ผู้บาดเจ็บเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุตามคลิปเป็นช่วงเวลา 14.00 น. วันที่ 31 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา คนที่ทำร้ายนั้นคือลูกเขย ชื่อ นายณัฐวุฒิ อิฐกอ หรือกัน อายุ 31 ปี ที่อยู่ 277/2 ม.4 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นทหารยศนายสิบ อยู่ที่ค่ายสีหราชเดโชไชย หรือค่าย ร.8 โดยปกติลูกเขยก็จะพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับภรรยาและตนเอง โดยตนเองเลี้ยงหลานสาว 2 ขวบ 4 เดือนตั้งแต่เกิด และไม่เคยมีปากเสียงกับลูกเขย ไม่เคยทะเลาะ ไม่เคยดุด่า แต่วันเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่ลูกสาวของตนเอง คือภรรยาของนายณัฐวุฒิ ไปทำงานที่ต่างจังหวัด

ลูกเขยจึงไปนอนพักในค่าย และไม่รู้ว่าลูกเขยโมโหอะไรมา เข้ามาที่บ้านท่าทางฉุนเฉียว มาขนขวดน้ำข้าวของของหลานไป ซึ่งตนเองรู้แล้วว่าจะต้องพาหลานสาวไปพักที่ค่ายด้วย จึงห้ามไม่ให้พาไปเพราะเป็นห่วงหลาน หากไปอยู่ในค่ายซึ่งพ่อทำงานจะไปอยู่อย่างไร โดยลูกเขยเดินขนของรอบแรกไม่พูดไม่จา รอบสองเข้ามาขนอีกแล้วเดินปรี่เข้ามาทำร้ายตนเองทันทีต่อหน้าเด็กที่นอนดูทีวีอยู่บนผ้าปูพื้นจนเด็กร้องไห้ตามในคลิป

ตนถูกทำร้ายหลายที่จนมึนและไม่รู้ว่ามีเลือดออกมากน้อยขนาดไหน เพราะรีบวิ่งตามลูกเขยที่อุ้มหลานไปขึ้นรถ ก่อนจะมารู้ตัวว่าเลือดไหลเต็มศีรษะแล้ว จึงไปทำแผลที่โรงพยาบาลและเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.บ้านเป็ด แต่ทางตำรวจไม่ทำอะไร บอกให้ตนรออีก 1 เดือนจึงจะเรียกสอบปากคำ ตนจึงกลับมาบอกเล่าให้ลูกสาวฟังและส่งคลิปให้ดู ลูกสาวได้ไปแจ้งต่อค่ายทหารที่ลูกเขยสังกัดให้ดำเนินการตามระเบียบให้

กระทั่งผู้บังคับบัญชาเพิ่งทราบเรื่องก็มีการสั่งย้ายไปอยู่โคราชทันที และพาหลานสาวกลับมาให้เมื่อคืนตอน 5 ทุ่ม สภาพต่างจากตอนที่อยู่กับตนเอง หลานผอม และเหมือนคนอดหลับอดนอน คาดว่าจะไปอยู่ในค่ายทหารกับพ่อเด็กแล้วกินนอนไม่เป็นเวลาตลอด 1 สัปดาห์


น.ส.รุ่งอรุณบอกอีกว่า ในส่วนของการดำเนินการของทางผู้บังคับบัญชานั้นตนเองพึงพอใจแล้ว ซึ่งมีการย้ายลูกเขยทันทีหลังจากทราบเรื่อง และตนก็ได้ขอ 2 เรื่องไปคือไม่ให้ย้ายกลับมาประจำที่ขอนแก่นอีกเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองด้วย กลัวว่าอยู่ในพื้นที่หากเกิดโมโหอีกก็จะมาทำแบบนี้อีก และขอใช้สิทธิ์แม่เด็กเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้านตามเดิม เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น เพราะเลี้ยงหลานด้วยความรักมาตั้งแต่เกิด และไม่เคยมีปัญหากับลูกเขยสักครั้ง ไม่เคยดุด่า ไม่เคยมีปากเสียงกัน

“ที่ผ่านมาเรื่องในครอบครัวของลูกสาวและลูกเขยฉันไม่เคยเข้าไปยุ่ง และลูกสาวก็ไม่เคยพูดเรื่องในครอบครัวให้ฟัง แต่ฉันสังเกตได้จากพฤติกรรมของลูกสาวว่าไม่มีความสุข หากอยู่กับสามีจะเกรงกลัวสามี แต่ส่วนตัวไม่เคยเห็นการทำร้ายร่างกายลูกสาว ในส่วนที่ฉันถูกทำร้ายร่างกายนั้นตอนนี้ไม่ติดใจเอาความแล้วเพราะทางค่ายทหารได้มีการสั่งลงโทษให้จนพึงพอใจแล้ว ส่วนเรื่องในครอบครัวของลูกสาวจะหย่าหรือจะทำอะไรก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของครอบครัวลูกสาวได้ตัดสินใจเอง” น.ส.รุ่งอรุณกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น