xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)เริ่มแล้ว! งานนมัสการองค์พระธาตุพนม บุญใหญ่เดือนสาม ชาวไทย-ลาวแห่พระอุปคุตขึ้นจากน้ำรักษางานประเพณีสำคัญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เริ่มแล้วงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ระหว่างวันที่ 5-13 กุมภาพันธ์นี้
นครพนม - เปิดแล้วงานบุญเดือนสาม นมัสการองค์พระธาตุพนม งานบุญใหญ่ของชาวไทย-ชาวลาว เผยรองผู้ว่าฯ นครพนมนำหัวหน้าส่วนราชการอัญเชิญจากน้ำโขง และแห่พระอุปคุต รักษางานบุญใหญ่นมัสการองค์พระธาตุพนม ตลอด 9 วัน 9 คืน ระหว่างวันที่ 5-13 กุมภาพันธ์นี้


                                 

วันนี้ (5 ก.พ.) ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดงานบุญเดือนสาม นมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2568 กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 5-13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยภาคเช้ามีการประกอบพิธีสำคัญตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง มีประชาชน นักท่องเที่ยว พลังศรัทธาในองค์พระธาตุพนม ต่างนำเครื่องสักการบูชา รวมถึงดอกดาวเรือง มาร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์แห่พระอุปคุต ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์สืบทอดมาแต่โบราณ

พิธีแห่พระอุปคุต เชื่อกันว่าสืบทอดมาแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระอุปคุตเป็นสาวกพระพุทธเจ้า มีอิทธิฤทธิ์ที่สามารถคุ้มครอง ปกปักรักษางานประเพณีต่างๆ ได้ ซึ่งพิธีอัญเชิญและแห่พระอุปคุตงานนมัสการพระธาตุพนมปีนี้ผู้อัญเชิญคือ ว่าที่ร้อยตรี รวยรุ่ง โคตรบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, นายนพรัตน์ สุธรรมาโม เจ้าภาพพระอุปคุต, นาวาเอก แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม, พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ เสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 210 และนายปรีชา มณีสร้อย นายอำเภอธาตุพนม


สำหรับพิธีอัญเชิญและแห่พระอุปคุตประกอบขึ้นในช่วงเช้า ก่อนการเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ถือเป็นบุญใหญ่ของชาวอีสานที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่ปี 2519


เชื่อกันว่าก่อนที่จะเริ่มงานนมัสการวันแรก จะต้องมีการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ตามประเพณีความเชื่อ คือ อัญเชิญองค์พระอุปคุตมาปกปักรักษาให้งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตลอด 9 วัน 9 คืน โดยถือเป็นงานประจำปีบุญใหญ่อีสานที่กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว มีเงินหมุนเวียนสะพัดเกือบ 100 ล้านบาท ทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ถูกจับจองเต็ม


งานนมัสการองค์พระธาตุพนมจัดขึ้นทุกปีในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3 จนถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ถือเป็นงานบุญประเพณีใหญ่ของชาวอีสาน สืบทอดกันมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2519 ยาวนานกว่า 49 ปี โดยจากประวัติความเป็นมา ตามตำนานความเชื่อ พระอุรังคนิทาน ระบุไว้ว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้าพร้อมพระอานนท์ ได้เสด็จมาทางอากาศ เพื่อไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูร สปป.ลาว ภายหลังได้มาประทับแรมที่ภูกำพร้า คือจุดก่อสร้างองค์พระธาตุพนมในปัจจุบัน

จากนั้นพญาอินทร์ได้เสด็จมาทูลถาม ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ ในภัทรกัปที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า เช่นกันกับพระพุทธองค์ เมื่อนิพพานแล้ว พระมหากัสสะปะ ผู้เป็นสาวก จะได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้เช่นกัน


ภายหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระมหากัสสะปะ ผู้เป็นสาวก ได้ร่วมกันสร้างองค์พระธาตุพนมขึ้น เพี่ออัญเชิญพระอุรังคธาตุมาประดิษฐาน ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-14 หรือในราวปี พ.ศ. 8 สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรกำลังเจริญรุ่งเรือง โดยการนำของพญาเจ้าเมืองทั้ง 5 และพระอรหันต์ 500 องค์ ซึ่งในยุคแรกได้ก่อสร้างจากดินดิบ เป็นเตาสี่เหลี่ยมข้างในเป็นโพรงมีประตูทั้ง 4 ด้าน จากนั้นได้บูรณะ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 500 และบูรณะต่อเนื่องมารวม 6 ครั้ง




เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2518 เวลา 19.38 น. เกิดเหตุการณ์สำคัญ คือองค์พระธาตุพนมล้มทลายลงมาทั้งองค์ สาเหตุมาจากเกิดฝนตกหนัก พายุพัดแรงติดต่อกันหลายวัน รวมถึงความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนม ซึ่งเหตุการณ์ขณะนั้นสร้างความโศกเศร้าต่อพุทธศาสนิกชนสองฝั่งโขงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยพลังแรงศรัทธาที่มีต่อองค์พระธาตุ ประชาชนร่วมบริจาคทุนทรัพย์เพื่อก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม โดยมีรัฐบาลไทยดำเนินการก่อสร้าง จนแล้วเสร็จในปี 2522 ลักษณะพระธาตุเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูง งดงามสง่าเหมือนองค์เดิม มีขนาดฐานกว้างด้านละ 12.33 ม. และสูง 53.60 ม.

วันที่ 22 มี.ค. 2522 ทางรัฐบาลได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดการพระราชพิธียกฉัตรยอดองค์พระธาตุพนม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระอุรังคธาตุ) ขึ้นบรรจุในองค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ปีเดียวกัน พระธาตุพนมเป็นศูนย์รวมใจยึดมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชนสองฝั่งโขงอย่างไม่เสื่อมคลาย


กำลังโหลดความคิดเห็น