กระทรวงทรัพยากรฯ (MOU) ส่งเสริมการใช้ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ภายในประเทศอย่างยั่งยืน กับ 6 หน่วยงานภาครัฐ 4 หน่วยงานภาคเอกชน 3 สมาคมชุมชนท้องถิ่น และ 4 สถาบันการศึกษาและวิจัย
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีนโยบายการขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรไม้ในประเทศ ต้องให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีมาตรฐาน และคำนึงถึงหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น
ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการใช้ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ภายในประเทศไทยอย่างยั่งยืน ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
โดยในวันนี้ พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจหน่วยงาน (MOU) เกิดขึ้นได้จากการบูรณาการทุกภาคส่วน โดยมี 6 หน่วยงานภาครัฐ 4 หน่วยงานภาคเอกชน 3 สมาคมชุมชนท้องถิ่น และ 4 สถาบันการศึกษาและวิจัย
สำหรับหน่วยงานภาครัฐ 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมป่าไม้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติเพื่อการใช้ไม้ที่ถูกต้องตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ส่วนหน่วยงานภาคเอกชน 4 หน่วยงาน ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ในประเทศ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด บริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด บริษัท ทีพีเอส การ์เด้น เฟอร์นิเจอร์ จำกัด และบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
สมาคมและชุมชนท้องถิ่น 3 หน่วยงาน ได้แก่ สมาคมการค้าผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ไม้จังหวัดแพร่ สมาคมธุรกิจไม้โตเร็ว และวิสาหกิจชุมชนล้อเกวียนล้านนาบ้านท่าล้อ จังหวัดแพร่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเข้มแข็งให้ภาคการผลิตและชุมชนท้องถิ่น
และสถาบันการศึกษาและวิจัย 4 หน่วยงาน ได้แก่ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยาลัยชุมชนแพร่ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการใช้ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ในประเทศอย่างมีมาตรฐานและยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรฯ แจ้งว่าที่ผ่านมา ได้มีการสนับสนุนการใช้ไม้และทำไม้ในประเทศไทยอย่างยั่งยืนโดยการปลดล็อกแก้ไขกฎหมายตามมาตรา 7 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ให้ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ในที่ดินกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครอง และมีประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ ให้มีการทำไม้หวงห้ามที่ปลูกขึ้นในที่ดิน ส.ป.ก. โดยไม่ต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้และมีการลดขั้นตอนการขออนุญาตการทำไม้ในที่ดิน คทช. ให้สะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น
หวังว่าการทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกภาคส่วนที่จะร่วมมือกันผลักดันให้การใช้ไม้ในประเทศไทยให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมและชุมชนอย่างสมดุล และจะเป็นกลไกสำคัญ ส่งเสริมการใช้ไม้ และผลิตภัณฑ์ ไม้ที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรอง ตามมาตรฐานสากล และสามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ประเทศไทยในระยะยาว