ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พ่อของ “นช.สมพร” เผยเหตุที่ลูกชายหลบหนีขณะถูกพาบำเพ็ญประโยชน์นอกคุกเขาพริกเพราะอยู่ในคุกไม่มีเงินใช้ จึงหลบหนีมาหาพ่อที่บ้าน ก่อนจะแอบหลบอยู่ในกองฟาง แต่ดันไอเสียงดัง ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ยินจึงเข้าจับกุมได้ทันที ย้ำกับลูกชายให้อดทนติดคุกไม่นานก็ได้ออกมาแล้ว
จากกรณีนักโทษชาย สมพร พรมหา อายุ 34 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 90 บ้านท่าลี่ หมู่ 7 ต.บ้านกง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น นักโทษคดียาเสพติด ข้อหา เสพและมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จำนวน 99 เม็ด ถูกจองจำอยู่ที่ทัณฑสถานเกษตรและอุตสาหกรรมเขาพริก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ก่อนก่อเหตุหลบหนีระหว่างออกมาบำเพ็ญประโยชน์นอกเรือนจำเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ทั้งที่อีกแค่ 3 เดือนก็จะพ้นโทษ (เม.ย.) ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองเรือ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ติดตามจับกุมตัวได้แล้วขณะหลบซ่อนอยู่ที่บ้านเกิด
นายสมศักดิ์ พรมหา อายุ 52 ปี พ่อของ นช.สมพร ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงที่ลูกชายถูกจับกุมได้นั้นตนไม่เห็นเพราะเดินไปชาร์จโทรศัพท์ในหมู่บ้าน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์แจ้งว่าจับลูกได้แล้วหลบซ่อนอยู่ในที่นาของตนเอง จึงขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปทันที ก็เห็นลูกชายถูกใส่กุญแจมือไว้กับเสาเถียงนาแล้ว โดยตำรวจให้ตนคุยกับลูกชายก่อนจะคุมตัวไป ตนก็ถามว่าหนีออกมาทำไม อีกแค่สองเดือนเศษก็จะพ้นโทษแล้ว ลูกชายบอกว่าไม่มีเงิน จึงอยากกลับบ้านมาหาพ่อ ตนก็บอกว่าอยู่ข้างในไม่ได้ทำงาน มันจะมีเงินได้ยังไง ขนาดพ่ออยู่ข้างนอกก็ยังไม่มีเงินเลย ทำไมไม่อดทน อีกแค่ไม่กี่เดือนเอง
จากนั้นตนก็เอาเสื้อกันหนาวให้ลูกชายสวมใส่ไปด้วย เพราะอากาศเย็น หลังจากคุยกันเสร็จเจ้าหน้าที่ก็พาตัวลูกชายออกจากที่นาไปทันที
นายสมศักดิ์เล่าอีกว่า ก่อนที่ลูกชายจะถูกเจ้าหน้าที่จับได้นั้น ได้ไปขโมยเอาเสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ขี่มาหาพ่ออยู่ที่ทุ่งนาช่วงเวลาประมาณตีสอง ขณะนั้นพ่อนอนหลับอยู่ ซึ่งพ่อก็งงว่าทำไมไม่ปลุก และทราบต่อมาว่าได้ไปหายายอยู่ในหมู่บ้าน ขอเงินเติมน้ำมัน 40 บาท แล้วเอารถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งห่างจากทุ่งนาแต่ตนเองไม่ทราบว่าจอดไว้จุดไหน แล้วย้อนกลับมาแอบหลบอยู่ในกองฟางด้านหน้าทางเข้าทุ่งนา ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังเฝ้าเอาไว้แล้ว แต่ลูกชายที่หลบอยู่ในกองฟางได้ไอออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงไอจึงกรูเข้าจับกุมตัวทันที
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกโล่งอกที่ตำรวจจับตัวลูกชายได้แล้ว ปลอดภัยมากกว่าหลบหนีอยู่ข้างนอก ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกอยู่ว่าอาจจะได้รับโทษเพิ่มขึ้นอีกประมาณหกเดือน เพราะระหว่างหลบหนีได้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินของชาวบ้านทั้งเสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์มาด้วย ซึ่งตนเองก็บอกลูกอยู่ว่าให้อดทนเอาเดี๋ยวก็ได้ออกมาแล้ว ซึ่งลูกชายก็รับฟังก่อนจะถูกคุมตัวกลับไป
