ปราจีนบุรี - พ่อเมืองปราจีนบุรี สั่งฟันชาวบ้านเผานาข้าว ให้เจ้าหน้าที่เอาผิดอาญาฐานทำค่าฝุ่นพิษพุ่ง ออกคำสั่งห้ามเผาเด็ดขาดตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ผู้ใดฝ่าฝืนและปล่อยปละละเลยจะถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี ด้าน นอภ.เมืองปราจีนฯ มอบเจ้าหน้าที่แจ้งความเอาผิดชาวนาลอบเผา 3 จุดแล้ว
จากปัญหาสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ที่พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง หลังชาวนาในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเขต อ.เมืองปราจีนบุรี และ อ.ศรีมหาโพธิ พากันจุดไฟเผาตอซังข้าวจนเกิดกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควัน และเจ้าหน้าที่ที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อดับไฟนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (27 ม.ค.) นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี นายอำเภอศรีมหาโพธิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ได้ประชุมร่วมกันที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
โดยได้ข้อสรุปว่า ปัญหาปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ที่สูงเกินค่ามาตรฐานส่วนใหญ่เกิดจากเกษตรกรที่ทำนาได้จุดไฟเผาตอซังข้าวหลังเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จในหลายพื้นที่
ขณะที่ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีคำสั่งเด็ดขาดให้ออกประกาศห้ามมิให้มีการเผาในที่โล่งทุกชนิด เช่นเดียวกับในพื้นที่ชุมชนซึ่งมีข้อห้ามมิให้มีการเผาขยะ เศษกิ่งไม้ ใบไม้ทุกชนิด ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ผู้ที่ฝ่าฝืนและปล่อยปละละเลย จะถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี
ด้านเจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี เผยถึงภาพรวมการเกิดไฟป่าบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่ อ.ประจันตคาม ระหว่างวันที่ 24-25 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ในพื้นที่การเกษตรกรซึ่งมีการรายงานไฟลามทุ่ง หรือไฟไหม้นาข้าวเกือบทุกพื้นที่สาเหตุอาจมาจากการจงใจเผา หรือเกิดจากการทิ้งก้นบุหรี่ลงข้างทางจนทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น ทำให้หน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่รวมทั้งผู้นำชุมชน และ อบต. ต้องออกปฏิบัติการดับไฟกันทุกวัน เพื่อลดปริมาณฝุ่น
“หากพื้นที่ไหนที่มีกำลังบุคลากร หรืออุปกรณ์ไม่เพียงพอ จะมีการสนับสนุนกำลังจากหน่วยงานทหาร และงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี หากมีการร้องขอมา” เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี กล่าว
ส่วน นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี ได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การบริหารส่วนตำบลทุกตำบล เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเกษตรการหยุดการเผานาข้าว แต่ยังพบว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมายังคงมีผู้ฝ่าฝืนลักลอบเผาใน 3 จุด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ให้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อ ดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดแล้ว
เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ คำมาตย์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี เผยว่าการลักลอบเผานาข้าวถือเป็นความผิดในคดีอาญาและผู้ฝ่าฝืนมีโทษทางแผ่นดินหลายข้อหา เช่น โทษปรับและโทษจำคุก ซึ่งผู้กระทำการดังกล่าวจะอ้างเหตุผลว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เนื่องจากได้มีการประกาศเป็นคำสั่งห้ามแล้ว และผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนส่วนรวมได้รับความเดือดร้อน
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และหากพบว่าเป็นการจงใจกระทำ คดีความจะมีอายุค่อนข้างนาน” ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี กล่าว
ด้านเกษตรและสหกรณ์จังหวัดปราจีนบุรี เผยถึงมาตรการชดเชยรายได้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพื่อลดต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 10 ไร่ ว่าถ้าหากเกษตรกรไม่เผาย่อมมีสิทธิได้รับเงินชดเชยดังกล่าว แต่หากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเกษตรกรมีการเผานาจะตัดสิทธิการได้รับเงินค่าชดเชยเป็นเวลา 2 ปี
