สมุทรสงคราม - “พิธา” ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน” ลงพื้นที่ขึ้นเวทีปราศรัย มั่นใจปักธงนายก อบจ.สมุทรสงครามได้แน่นอน
เย็นวันนี้ (26 ม.ค.) ที่ลานหน้าศาลากลาง จ.สมุทรสงคราม พรรคประชาชนได้ตั้งเวทีปราศรัยชั่วคราว โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้นำ ส.ส.ของพรรคประชาชน เช่น นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 27 นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 28 นายภัณฑิล น่วมเจิม ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 4 และนายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาชน มาขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อช่วย น.ส.นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงคราม เบอร์ 2 จากพรรคประชาชน และลูกทีมที่ลงสมัคร ส.อบจ. โดยมีชาวสมุทรสงครามและผู้ให้การสนับสนุนที่มีทั้งกลุ่มวัยรุ่นและคนวัยทำงานทยอยกันมาฟังการปราศรัยประมาณ 400 คน
โดย น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 28 ปราศรัยตอนหนึ่งว่า “การเลือกตั้งสนามใหญ่ขายนโยบาย แต่จะทำตามหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมาก็แข่งกันที่กระสุนใครเม็ดใหญ่กว่ากันและใครยิงเข้าเป้ากว่ากัน ตอนนี้มีกระแสว่าเริ่มแล้ว แต่พรรคประชาชนยืนยันไม่ว่าจะเลือกตั้งระดับใดพี่น้องประชาชนมีสิทธิรับรู้ว่าคนที่เสนอตัวมาให้เลือกจะเข้ามาบริหารงบประมาณจากภาษีประชาชนอย่างไร ที่ผ่านมาไม่มีใครบอกว่างบประมาณ อบจ.สมุทรสงคราม 4 ปีซึ่งมีกว่า 1,000 ล้านบาทจะทำอะไรให้ชาวสมุทรสงครามบ้าง สิ่งที่พรรคประชาชนนำเสนอคือทางเลือก คือโอกาส พรรคต้องการยืนยันว่า อบจ.สามารถบริหารจัดการงบประมาณให้ประชาชนได้สัมผัสกับความเจริญ จังหวัดใหม่ อนาคตใหม่ และโอกาสใหม่ได้จริง
นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายเสียงแซะพรรคประชาชนว่าขายฝันและไม่สามารถเอาชนะการเมืองท้องถิ่นได้ เพราะไม่มีเครือข่ายอุปถัมภ์ เขาอยากให้เราหยุดฝัน อยากให้อยู่ที่เดิม ให้สิ่งต่างๆ คงอยู่เหมือนเดิมเหมือนที่เราเคยเจอ แต่พรรคประชาชนเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้และมุ่งมั่นเพื่อเปลี่ยนความเป็นไปได้ให้เป็นความจริง เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพความเป็นมนุษย์ในการเลือกสิ่งที่ดีกว่าเสมอ เราจึงสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเงินไม่กี่ร้อยเพราะคือความมั่นคงในอนาคต การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้เพราะทุกคนช่วยกัน
ด้าน นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 27 บอกว่า การเลือก น.ส.นันทิยาก็ได้ น.ส.นันทิยาไม่มีใครมาวิ่งราวเก้าอี้นายก อบจ.ไปได้เพราะส่งตรงจากประชาชน คนสมุทรสงครามอยากได้อย่างไรก็ต้องได้อย่างนั้น และถ้าเสียงสนับสนุนมากพอ เราจะบริหารที่นี่ให้ดูว่าพรรคประชาชน เราทำเป็นทำได้ ไม่ใช่คำบอกว่าไม่มีประสบการณ์ คำก็บอกว่าเด็กไป คำก็บอกว่าน่าจะทําไม่ได้ และถ้าไม่เลือกเราจะโชว์ผลงานได้ยังไง ประชาชนเลือกเรามา 14 ล้านเสียง แล้วมาวิ่งราวเก้าอี้ไป พอจะโชว์ผลงานถูกช่วงชิงไป เพราะฉะนั้นเราขอสนามท้องถิ่นที่นี่ปักธง
นอกจากนี้ นายณัฐชา ยังบอกด้วยว่า การเป็นนายก อบจ.ต้องทำหน้าที่ “ครู” บริหารจัดการเอางบประมาณมาใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของพี่น้องประชาชนให้ได้ นอกจากเป็นครูแล้ว ยังต้องมีความรู้ด้าน “คลัง” มีหน้าที่จับจ่ายใช้สอยหาเงินหาทอง วันนี้งบประมาณรายจ่ายของ อบจ.สมุทรสงครามปีละ 250 ล้านบาทได้มาจากรัฐส่วนกลางและหาเองเพิ่มเติม ถ้าบริหารดีหาเพิ่มเติมได้ก็ใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้น นอกจากสองหน้าที่แล้วยังต้องเป็น “ช่าง” ด้วย หน้าที่ช่างคือนายกต้องมีวิสัยทัศน์ ตรงไหนเสีย ตรงไหนต้องปรับปรุง ไปซ่อม ไปเสริม หรือซื้อใหม่ต้องกล้าอนุมัติ เพื่อความต้องการของประชาชน หน้าที่สุดท้ายสําคัญที่สุดคือ “หมอ” ต้องมีความรู้มีวิสัยทัศน์ที่จะมาดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่พี่น้องประชาชนต้องการหมอ ต้องการโรงเรียน แต่กลับซื้อยางมะตอยไปถมถนนหน้าบ้านตัวเอง
ด้าน น.ส.นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงคราม เบอร์ 2 จากพรรคประชาชน ปราศรัยชูนโยบาย 8 ข้อ เพื่อสร้างและส่งต่อบ้านเมืองที่ดีให้ลูกหลาน คือ 1.โครงการชุบชีวิตให้โครงข่ายสายน้ำ 2.เยาวชนภาษาดี มีทักษะอนาคต 3.ต่อยอดต้นทุนทางธรรมชาติ 4.เมืองปลอดภัยถนนทุกสายไฟสว่าง 5.เพิ่มพื้นที่สาธารณะ เพื่อการเรียนรู้ 6.สมุทรสงครามเมืองอัจฉริยะ 7.สาธารณสุขฉุกเฉิน 8.ตลาดปลาเก่าสู่แลนด์มาร์กแห่งใหม่
และนอกจากนโยบาย 8 ข้อดังกล่าวแล้ว ยังนำเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเด็กในวัยเรียนคือการสนับสนุนให้น้องๆ ในโรงเรียนสามารถเรียนภาษาต่างประเทศไปจนถึงขั้นพูดได้ และหลังจากนั้นจะต่อยอดโดยทำโครงการมัคคุเทศก์น้อยชวนน้องๆ มาหารายได้พิเศษในวันเสาร์อาทิตย์ โดยการพาไปตามแหล่งท่องเที่ยว โดยทาง อบจ. จะเป็นศูนย์กลาง เป็น Center ในการบริหารจัดการให้น้องๆ ได้มารับนักท่องเที่ยวเพื่อจะได้มีรายได้เสริมระหว่างเรียนเป็นการหารายได้ให้ครอบครัวอีกทางหนึ่ง จึงขอโอกาสชาวสมุทรสงครามและน้องๆ เพื่อเข้าไปทำงานซึ่งตนจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
จากนั้นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเป็นคนสุดท้าย บอกว่าสมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่จิ๋วแต่แจ๋ว เล็กที่สุด แต่ดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงอันดับหนึ่งของประเทศไทย ถ้าเป็น อบจ.ของพรรคประชาชน จะเค้นประสิทธิภาพของ จ.สมุทรสงครามได้ยังไง คุณเก่งนันทิยา ผู้สมัครของพรรคตอนแรกเอาโบรชัวร์มาให้อ่าน ตนก็ปิดหน้า ปิดชื่อไว้ เป็นวิศวกรเคยไปอยู่ต่างประเทศประวัติแบบนี้นี่คุณธนาธร ภาค 2 หรือภาคผู้หญิงเลยนะถ้าเอาหน้าคุณธนาธรใส่เข้าไปก็ใช่เลย ทั้งบริหารก็ได้ เป็นวิศวะก็ได้ เพราะฉะนั้นสมุทรสงครามต้องการ นายก อบจ.ที่สามารถเค้นประสิทธิภาพงบประมาณ 4 ปี 1,000 ล้านให้เยอะที่สุด เหมือนอย่างที่วิศวกรทั่วไปต้องทำ สอเสือที่อยู่ในสมุทรสงคราม สองสอ คือสมัย และเสน่ห์ ที่นี่คือเมืองแห่งการท่องเที่ยวสร้างสวรรค์ให้นักท่องเที่ยว อยากจะใช้เงินมากขึ้น เพิ่มมูลค่าสินค้าการเกษตร แล้วมีเสน่ห์ให้สมุทรสงครามทันสมัย เทคโนโลยีก้าวไกล และสร้างเสน่ห์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวรวมทั้งด้านอื่นๆ การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ขอให้เป็นวิศวกรหญิงที่จะมาขับประสิทธิภาพสมุทรสงครามให้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศต่อไป
จนกระทั่งเวลา 19.00 น.เวทีปราศรัยได้เสร็จสิ้น โดยนายพิธา ใช้เวลาปราศรัยประมาณ 15 นาที โดยบอกว่ามีโปรแกรมจะต้องไปปราศรัยช่วยผู้สมัคร อบจ.ที่ จ.สมุทรสาคร เป็นลำดับต่อไป