อุดรธานี-เปิดใจนางจูมศรี แม่ของ “ลำดวน สีกันยา” สตรีแห่งขุนเขา เสียชีวิตบริเวณหุบเขาในประเทศอังกฤษ เมื่อ 20 ปีก่อน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวสามีผู้ต้องสงสัยและส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่อังกฤษแล้ว เผยเชื่อมาตลอดว่าลูกเขยเป็นคนทำ ยังคิดถึงลูกสาวเสมอ ขอให้ลูกสาวไปสู่สุคติ ชาติหน้าไม่อยากให้เกิดเป็นคน เพราะคนเสื่อมศีลธรรมลงทุกวัน
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเข้าควบคุมตัว นายเดวิด สจ๊วต อาร์มิทาจ (Mr.David Stuart Armitage) อายุ 62 ปี สัญชาติอังกฤษ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีหญิงไทยเสียชีวิตอย่างปริศนาที่สหราชอาณาจักร เมื่อ ปี พ.ศ.2547 คือนางลำดวน สีกันยา เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 46/1 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
สตม.ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ตามมาตรา 12(7) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และได้อนุมัติเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และได้แจ้งการเพิกถอน การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทราบ ควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และ พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศ ในทางอาญา (MLAT) ระหว่างประเทศไทย และสหราชอาณาจักร ต่อไปตามที่สื่อมวนชนนำเสนอข่าวไป
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (26 ม.ค.) ที่บ้านโพน ต.ธาตุ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พบกันนางจูมศรี สีกันยา อายุ 80 ปี แม่ของนางลำดวน สีกันยา เพื่อสอบถามข่าว ว่าแม่รู้ข่าวหรือยังว่าตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นอดีตสามีได้แล้ว และพบว่านางจูมศรี ได้ย้ายที่อยู่จากเดิมในตัวหมู่บ้านออกไปท้ายบ้าน เพื่ออยู่แบบสงบและปลูกผักเป็นงานในบั้นปลายชีวิต
นางจูมศรี สีกันยา แม่ของนางลำดวน ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนี้รู้ข่าวแล้วว่าตำรวจสามารถจับตัวผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นอดีตสามีได้แล้ว ตั้งแต่เมื่อวาน เรื่องราวที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นมานาน เกือบ 20 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ตนเชื่อมาตลอด ว่าสามีของเขาเป็นคนทำ ปีสุดท้ายที่ได้เจอลูกสาวก็เมื่อปี 2547 โดยเขาเดินทางมาพร้อมนายเดวิด หลังจากนั้นก็ไม่เห็นลูกสาวและลูกเขยอีกเลย นิสัยส่วนตัวลูกสาวนั้นเป็นคนซื่อๆ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง หรือไปมีเรื่องบาดหมางกับใคร ตนรู้สึกแปลกๆตั้งแต่ลูกสาวเริ่มไปอยู่ที่อังกฤษ ตอนนั้นรู้สึกหวิวๆ คล้ายกับลูกจะจากโดยไม่มีวันหวนกลับ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เวลาผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ยังคิดถึงลูกอยู่หรือเปล่า นางจูมศรีกล่าวทั้งน้ำตาว่า หากไม่มีคนมาพูดถึงรื้อฟื้นความหลัง หรือใครมาถามก็จะไม่คิด แต่พอใครมาถามก็รู้สึกคิดถึงจนน้ำตาไหล ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามจับกลุ่มดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าดวงวิญญาณของลูกสาวยังรับรู้หรือได้ยิน ก็อยากจะบอกว่าขอให้ดวงวิญญาณไปดีถึงสุข ไม่ต้องห่วง หากชาติหน้ามีจริงก็ไม่อยากให้มาเกิดเป็นคน อยากให้เกิดเป็นพรหมเป็นเทวดา เกิดมาเป็นมนุษย์มีแต่ความทุกข์ ทุกข์ใจทุกข์กาย คนเดี๋ยวนี้ไม่มีศีลมีธรรม มีแต่การแข่งดีชิงดีชิงเด่นกัน