xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเมืองกาญจน์เอาจริง ย้ำทุกอำเภอเฝ้าระวังไฟป่า จับได้ไม่มียกเว้น ดำเนินคดีทันที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - พ่อเมืองกาญจน์ย้ำทุกอำเภอเฝ้าระวังไฟป่าป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ตามนโยบายรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทยอย่างเคร่งครัด จับได้ไม่มียกเว้น ดำเนินคดีทันที

นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงนามในคำสั่งเมื่อวันนี้ 16 ม.ค.68 ประกาศจังหวัดกาญจนบุรี เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2568 เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่มีผลกระทบกับอากาศ และสุขภาพของประชาชน อันมีสาเหตุจากการเผาในพื้นที่ป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ที่สาธารณะ การเผาในพื้นเกษตรกรรม การเผาขยะในพื้นที่ชุมชน/เมือง พื้นที่ริมทางตลอดจนแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม

พร้อมประกาศบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน ซึ่งจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ได้แก่ 1.พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 74 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้ แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท

ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 19,483.148 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 12,176,976 ไร่ ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ เป็นรองแค่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดเชียงใหม่ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด 122 แห่ง แบ่งเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลเมือง 3 แห่ง เทศบาลตำบล 46 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 72 แห่ง

หลังจากมีประกาศดังกล่าวออกไป นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ได้ตื่นตัวสอดส่องดูแลเอาใจใส่ โดยได้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงสร้างการรับรู้ให้ประชาชนในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามประกาศฉบับดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนชาวกาญจนบุรี ที่มีอยู่ทั้ง 13 อำเภอ 98 ตำบล 959 หมู่บ้าน และ 206 ชุมชน เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะยังมีมนุษย์ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่สนใจถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยพบว่ายังมีการลักลอบเผาอยู่ในบางพื้นที่

ล่าสุด วันนี้ (25 ม.ค.) นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานจาก น ส.ชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอเลาขวัญ ว่าเวลาประมาณ 22.30 น.ของคืนวันที่ 24 ม.ค.68 ตรวจสอบระบบดาวเทียมพบเกิดจุดความร้อน Hotspot ขึ้นที่ป่าชุมชนเขาพ่อปู่ วัดใหม่คีรีวงศ์ หมู่ 4 ต.หนองประดู่ จำนวน 1 จุด ขณะตรวจพบไฟกำลังลุกไหม้ นายอำเภอเลาขวัญ จึงได้สั่งการให้ปลัดอำเภอ พร้อมด้วยสมาชิก อส.ร้อย อส.อ.เลาขวัญ 8 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และรถน้ำองค์การบริหารส่วนตำบลหนองประดู่ ร่วมกันเข้าดำเนินการดับไฟป่าอย่างทันท่วงทีทำให้ควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารและสิ่งปลูกสร้างของทางวัดได้

อีกทั้งยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกน้ำเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จนถึงเวลา 07.30 น.วันนี้ (25 ม.ค.) แต่ยังพบกลุ่มควันอยู่บนเขาซึ่งรถบรรทุกน้ำไม่สามารถเข้าถึงได้ เจ้าหน้าจึงได้ฉีดน้ำตามแนวเขาด้านล่างรวมถึงร่วมกันทำเป็นแนวกันไฟเอาไว้ และได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ไว้เฝ้าระวังตามตารางเวรเฝ้าระวังภัยจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

ต่อมา นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ได้รายงานว่า เวลา 19.00 น.วันที่ 24 ม.ค. ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.ท่ากระดาน ว่าเกิดไฟป่าขึ้นที่ซอยไร่ตาห้อยที่อยู่บนเขาตับเต่า หลังจากได้รับแจ้งจึงมอบหมายให้ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสาพร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ รวมถึงรถน้ำจากเทศบาลตำบลเอราวัณ ระดมกำลังเข้าดับไฟป่า พร้อมกับทำแนวกันไฟเอาไว้ด้านล่างเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามขยายวงกว้างออกไป แต่กว่าจะสำเร็จทำเอาเจ้าหน้าที่ต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปตามๆ กัน

นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ผมต้องขอความร่วมมือคนศรีสวัสดิ์ทุกท่าน ร่วมกันป้องกันไฟป่า เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ เมื่อมีเหตุทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งอุทยาน ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่น พี่น้องประชาชนจิตอาสาต้องเสียสละ เสี่ยงภัย เหนื่อยยาก อดหลับอดนอน ในการเข้าไปทำแนวกันไฟ เข้าไปดับไฟ อย่างเมื่อคืนที่เขาตับเต่า ต้องขอบคุณทุกท่านที่ยังให้ความร่วมมือ สถานการณ์ในอำเภอเราอยู่ภายใต้การควบคุม แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เดือนกุมภา-มีนา ที่จะถึงคือของจริง แต่เราจะผ่านไปได้ ถ้าทุกคนช่วยกันร่วมมือ ไม่เผา เฝ้าระวัง เข้าไปร่วมดับไฟทันท่วงที หรือส่งข้าว ส่งน้ำ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แค่นี้เราคนศรีสวัสดิ์จะผ่านปัญหานี้ไปด้วยกัน ขอบคุณครับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า อยากจะฝากไปถึงชาวกาญจนบุรีในทุกพื้นที่ว่าตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 เม.ย.ขอให้ความร่วมมือในการหยุดเผา เพราะผลกระทบที่ตามมามีมากมายโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพของเด็ก คนชรา รวมถึงหญิงที่ตั้งครรภ์ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ผ่านมาตนได้สั่งกำชับให้ทุกท้องที่ติดตามปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หากพบผู้ลักลอบกระทำความผิดให้ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งอย่างเคร่งครัดพร้อมประสานพนักงานสอบสวนในพื้นที่เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มียกเว้น ซึ่งทั้งหมดจะต้องดำเนินการตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้สั่งการมา






กำลังโหลดความคิดเห็น