นครสวรรค์ - เปิดใจเจ้าของฟาร์มสุนัขฯพยุหะคีรี..รับ “น้องอัษ”อยู่ด้วย 2 ปี-ช่วยดูแลงานฟาร์มแลกค่าจ้าง พร้อมอยู่กินเหมือนครอบครัว ยันไม่เคยรู้เป็นเด็กหาย รู้แค่ชื่อ “ฟิล์ม” รู้จักหลานในร้านเกมส์ เผยแม้อัษกลับแล้วยังยินดีต้อนรับเสมอ
กรณีมูลนิธิกระจกเงา ออกมาแจ้งประกาศตามหา เด็กชายเทอญพงษ์ ครอบบัวบาน หรือน้องอัษ อายุ 13 ปี ได้หายออกจากบริเวณหมู่บ้านทรัพย์จรัญวิลล่า ซอยแก้วเงิน 2 (จรัญสนิทวงศ์ 35) แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กทม. เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2562
พร้อมกับระบุ เด็กชายที่สูญหาย สูงประมาณ 150 ซม. น้ำหนัก 62 กก. ผิวสองสี ลักษณะผมสั้นทรงนักเรียน ผมสีดำ การแต่งกายสวมเสื้อกีฬาแขนสั้นสีดำแดง สวมกางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมรองเท้าแตะสีดำ มีตำหนิปานดำที่ติ่งหูด้านขวา และมีติ่งเนื้อที่หูด้านซ้าย คนหายพัฒนาการทางสมองช้า
กระทั่ง 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา มีการพบตัวน้องอัษ อยู่ในฟาร์มสุนัข พื้นที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จนนำมาสู่การส่งคืนสู่อ้อมอกครอบครัว โดยเฉพาะ น.ส.นรีรัตน มณีด่าน อายุ 38 ปี แม่ของน้องอัษ รู้สึกปลื้มปิติยินดีอย่างมาก จนหาคำมาบรรยายมาไม่ได้ เมื่อได้พบเจอลูกอีกครั้ง หลังจากต้องตามหาลูกมานานกว่า 5 ปี
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ฟาร์มสุนัข ที่น้องอัษ ระบุว่าได้อาศัยอยู่มาประมาณ 2 ปี พบ นางกันญาวีณ์ พงษ์นพไชยกุล เจ้าของฟาร์มสุนัข ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูห้องพักของน้องอัษที่เคยมาอยู่อาศัย ก็พบว่ามีเตียงนอนอย่างดี ส่วนเจ้าของฟาร์มสุนัข ก็ให้น้องอัษอาศัยอยู่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
นางกันญาวีณ์ เปิดเผยว่า ได้รู้จักน้องอัษในนามว่า "ฟิล์ม" ซึ่งมาอยู่ที่ฟาร์มแห้งนี้ ได้ประมาณ 2 ปี ซึ่งทราบว่าน้องอัษอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ และรู้จักกับหลานชายที่ร้านเกม โดยตอนนั้น น้องอัษ ระบายกับหลานชายว่า ถูกโกงค่าแรง ไม่มีเงิน จนบางวันต้องนอนที่ร้านเกม จึงทำให้หลานชายสงสารเลยชวนมาเที่ยวที่ฟาร์มในอำเภอพยุหะคีรี
ซึ่งตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะมาเที่ยวเท่านั้น แต่สุดท้ายน้องอัษก็ชอบฟาร์มและสุนัข จึงชวนให้มาทำงานที่ฟาร์มด้วยกัน โดยให้เขาช่วยงานในฟาร์มและช่วยเลี้ยงสุนัข แลกเปลี่ยนค่าแรงเป็นเงิน พร้อมกับให้อยู่กินกันเป็นครอบครัว
“ที่ผ่านมา ไม่รู้มาก่อนว่าเขาไม่ได้ติดต่อกับทางบ้าน เพราะตอนเขามาอยู่ที่ฟาร์มใหม่ๆ เมื่อ 2 ปีก่อน อ้างว่า พ่อแม่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด แถมตัวเขายังอ้างว่าอายุ 20 ปีแล้วด้วย จึงเห็นว่าเขาบรรลุนิติภาวะเลยรับมาอยู่ด้วย”
ทั้งนี้ยอมรับว่า เมื่อได้รู้ความจริง ก็รู้สึกตกใจที่ครอบครัวของเขาออกตามหามานานหลายปี และในวันที่ตำรวจมาที่ฟาร์มมาถามหาคนชื่ออัษ ตนยังงงว่าเป็นใคร จนกระทั่ง มาทราบภายหลังว่า น้องอัษก็คือฟิล์มที่อยู่กับตนมาตลอด แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ครอบครัวของตนก็ยังยินดีต้อนรับน้องอัษเสมอ เพราะที่ผ่านมาก็รักเขาเสมือนเป็นลูกเป็นหลาน
ด้านนายถวัษย์ พงษ์นพไชยกุล หลานเจ้าของฟาร์มสุนัขและเพื่อนของน้องอัษ เปิดเผยว่า เป็นคนพาน้องอัษมาอยู่ที่ฟาร์มเอง และที่ผ่านมา เขาไม่ค่อยได้เล่าเรื่องครอบครัว และเห็นเขาอยู่ที่ฟาร์มอย่างมีความสุข ก็เลยไม่เคยถามอะไรอีก จนมารู้ข่าวว่าเขาพลัดพรากจากครอบครัว ก็รู้สึกตกใจเช่นกัน