ชัยนาท - ตำรวจทางหลวงไล่ล่าจับรถขนแรงงานต่างด้าว ก่อนถูกรถผู้ต้องหาชนท้าย ขณะขนแรงงาน จำนวน 32 คน เด็ก 4 คน จึงนำตัวทั้งหมดพร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท
วันนี้ (24 ม.ค.) ภาพคลิปเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกองกำกับการ 1 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ขับรถไล่ล่ารถกระบะ 2 คัน ที่ขนแรงงานต่างด้าว พยายามขับหลบหนีมาตั้งแต่แยกหลวงพ่อโอ จ.นครสวรรค์ ก่อนมาจนมุมถูกจับได้ที่จังหวัดชัยนาท โดยภาพถ่ายจากกล้องหน้ารถของตำรวจทางหลวง ที่กำลังขับไล่ล่ารถกระบะ 2 คัน บนถนนสายชัยนาท-วัดสิงห์ ซึ่งรถตำรวจได้ขับไปปาดหน้ารถกระบะของผู้ต้องหา รถกระบะของผู้ต้องหาจึงชนท้ายรถตำรวจ ทำให้หน้ารถเสียหาย จนมุมถูกจับได้ที่ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท เมื่อตรวจสอบรถกระบะทั้ง 2 คัน พบว่ามีแรงงานต่างด้าวนั่งอยู่ด้านหน้ารถและที่ตัวกระบะ เป็นผู้ใหญ่ 32 คน เด็ก 4 คน จึงนำตัวทั้งหมดพร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท
พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงสิงห์บุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. และ พ.ต.อ. ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน
โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกองกำกับการ 1 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.บูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้ ( 24 ม.ค.) เวลาประมาณ 04.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบกลุ่มรถยนต์กระบะจำนวน 3 คัน ขับมาบนถนนเอเชีย บริเวณแยกหลวงพ่อโอ จ.นครสวรรค์ ติดตามกันมาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าทั้ง 3 คัน ขับมาด้วยความเร็วและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด
แต่รถดังกล่าวไม่หยุด กลับขับรถหนีเข้าถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชัยนาท ตำรวจจึงขับรถติดตาม มาจนกระทั่งถึงถนนสายชัยนาท-วัดสิงห์ กม.15 หมู่ที่ 4 ต.หาดท่าเสา อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้รถเข้าขวาง และถูกชนท้าย (ตามคลิป) โดยสามารถจับกุมรถกระบะได้ 2 คัน คันแรกมี นายสุริยา จัดระเบียบ อายุ 41 ปี ชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นคนขับ สารภาพว่า ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 15 คน ที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก
เพื่อไปส่งปลายทางพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยได้ค่าจ้าง 1,000 บาท/คน ส่วนกระบะคันที่ 2 มีนายมานะศักดิ์ ละดาดก อายุ 42 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เป็นคนขับ บอกว่าไปรับแรงงานต่างด้าวมาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย จะไปส่งที่กรุงเทพมหานคร ขณะที่แรงงานต่างด้าวบอกผ่านล่ามว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และมีคนพาออกมาขึ้นรถ เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย แต่ยังไม่รู้ว่าไปจังหวัดใด โดยบางคนเสียเงินให้นายหน้า 5,000-15,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวคนขับรถกระบะทั้ง 2 ดำเนินคดีในข้อหา 1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ดำเนินคดีข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังมีรายงานว่า คนขับรถกระบะคันที่ 3 ได้นำแรงงานต่างด้าวจำนวน 16 คน ไปทิ้งไว้กลางทาง แล้วขับรถหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปนำตัวแรงงานต่างด้าวอีก 16 คน ที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย