เชียงใหม่-เชียงใหม่ลุยเต็มสูบเตรียมสู้ฝุ่นควัน ไถกลบครบ 100% แล้ว 11 อำเภอ กำจัดเชื้อเพลิงลดพื้นที่เผา พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจสาเหตุ PM2.5 สั่งตรวจควันดำ และมลพิษจากโรงงานเพิ่ม
วันนี้ (23 ม.ค. 68) ที่ห้องปฏิบัติการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมศูนย์ฯ โดยมีตัวแทนส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ซึ่งในวันนี้ผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสถานการณ์จุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ว่าวันนี้ (23 มกราคม 2568) เชียงใหม่ไม่พบจุดความร้อน ขณะที่การเกิดจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 - 23 มกราคม 2568 จังหวัดเชียงใหม่มีจุดความร้อนเกิดขึ้นแล้วทั้งหมด 30 จุด เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังในห้วงเวลาเดียวกันมีจุดความร้อนลดลงจำนวน 337 จุด ลดลง 92%
ในส่วนของค่าคุณภาพอากาศ ผู้แทนสำนักงานควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ก็ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่ภาคเหนือค่าคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนวันที่ค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานแล้ว 2 วัน คือวันที่ 9 และ 10 มกราคม มีค่าฝุ่นอยู่ที่ 39.5 และ 46.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรตามลำดับ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการระบายอากาศไม่ดีในระยะนี้ และจะดีขึ้นหลังวันที่ 27 มกราคม 2568 ประกอบกับการจราจรในเชียงใหม่ค่อนข้างคับคั่งทำให้ความเข้มข้นของฝุ่นที่สะสมอยู่ในพื้นที่อาจจะเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกัน ในช่วงนี้อาจเกิดมลพิษและมีฝุ่นในอากาศได้แม้จะไม่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่ก็ตาม
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จึงมีข้อสั่งการให้ภาคขนส่งทุกชนิด หมั่นตรวจวัดควันดำ บำรุงรักษาไม่ให้เกินมาตรฐาน สื่อสารให้ผู้ใช้รถเกิดความตระหนัก เช่นเดียวกับโรงงานอุตสาหกรรม ให้เข้มงวดเรื่องการสร้างมลพิษ โดยมีข้อห่วงใยเรื่องบ่อขยะชุมชน เนื่องจากกลัวว่าจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย จึงขอให้ อปท.มีการบริหารจัดการที่ดี มีการติดป้ายห้ามเผา ระมัดระวังการทิ้งก้นบุหรี่ริมทางอาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ และขอให้หน่วยงานในพื้นที่รับผิดชอบ ตรวจสอบใบไม้ หญ้าแห้ง และขยะสองข้างทาง นอกจากนี้พื้นที่เสี่ยงในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ ขอให้นำเชื้อเพลิงออกจากป่า โดยเน้นย้ำให้มีการรายงานการเกิดจุดความร้อนให้เร็ว แก้ไขให้ไว เตรียมแผนเผชิญเหตุอย่างทันท่วงที และขอให้ดำเนินการตามข้อสั่งการของศูนย์ฯ และสื่อสารให้สังคมได้รับทราบ โดยเฉพาะด้านการสร้างความเข้าใจต่างๆ อาทิ ปัจจัยที่ส่งผลให้คุณภาพอากาศต่ำ การทำฝนเทียมไม่ส่งผลให้เกิดสารเคมี ซึ่งขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการไถกลบเพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตรครบ 100 % แล้ว 11 อำเภอ ได้แก่ แม่อาย พร้าว เชียงดาว แม่แตง แม่ริม สารภี สันกำแพง แม่ออน หางดง ดอยสะเก็ด และสันป่าตอง และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนครบ 25 อำเภอ
อย่างไรก็ตามขอให้ทุกหน่วยได้นำทรัพยากรที่มีนำมาใช้ในการป้องกันมลพิษหมอกควันไฟป่า ทั้งนี้ด้านการดูแลป้องกันสุขภาพของประชาชนกลุ่มเปราะบางขอให้สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานมาตรการรับมือต่างๆ จำนวนห้องลดฝุ่น มุ้งลดฝุ่น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมกรณีวิกฤต ทั้งนี้เพื่อให้การรายงานการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ PM2.5 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขอให้ทุกหน่วยใช้ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ www.air4thai.pcd.go.th เป็นหลัก และจึงขอให้ดำเนินการตามข้อสั่งการ และสื่อสารให้สังคมรับทราบผ่านศูนย์ประชาสัมพันธ์ร่วม JIC และรายงานผลการดำเนินงานมายังศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง จังหวัดเชียงใหม่ ทราบด้วย
