ศรีสะเกษ - “วิวัฒน์ชัย” ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ไม่หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยมหาสารคาม “ทักษิณ” โดนปาถุงขยะ หลังเตรียมลงพื้นที่ช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.ศรีสะเกษ 24-25 ม.ค.นี้ ชี้เป็นหน้าที่ของ จนท.ดูแลความปลอดภัย และเชื่อ ปชช.ชาวศรีสะเกษที่ชื่นชอบ “ทักษิณ” พร้อมเป็นเกราะกำบังให้
วันนี้ (22 ม.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ศรีสะเกษ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ศรีสะเกษ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ หมายเลข 1 ในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่หาเสียงพบปะกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเดินทางมาร่วมฟังการหาเสียงและรับฟังนโยบายการทำงานของนายวิวัฒน์ชัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นการหาเสียงช่วงสุดท้าย ก่อนที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางช่วยหาเสียงในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเปิดเวทีปราศรัยครั้งใหญ่ ระหว่างวันที่ 24-25 ม.ค. 2568 ที่จะถึงนี้
นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจเพราะเคยผ่านการเมืองระดับชาติมาแล้ว ทำให้ตนสามารถแก้ปัญหาระดับท้องถิ่นได้ ส่วนใหญ่ประชาชนที่ประสบปัญหาจะให้ข้อมูลผ่านมายัง ส.ส.ในพื้นที่ ไม่ได้ผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัด ฉะนั้นในการลงพื้นที่ทุกครั้ง ตนจึงชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงบทบาทขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมากขึ้น ว่ามีหน้าที่อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีหญิงสวมชุดแดงปาถุงขยะขึ้นเวทีขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม ที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม นั้น นายวิวัฒน์ชัย กล่าวว่า ต้องดูที่มาที่ไปว่าสาเหตุในการกระทำเช่นนี้ เพราะเหตุใด เพราะคนมาให้กำลังใจเป็นหมื่นๆ คน แต่มีเพียงคนเดียวที่กระทำเช่นนี้
"ส่วนที่ท่านทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปราศรัยที่จังหวัดศรีสะเกษในวันที่ 24-25 มกราคมนี้ ต้องเป็นบทบาทหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ในการดูแลความปลอดภัย และที่สำคัญคือ พี่น้องประชาชนที่มาให้กำลังใจและชื่นชอบท่านทักษิณ ก็พร้อมที่จะเป็นเกราะกำบังให้อยู่แล้ว ซึ่งผมมองว่าการเดินทางลงพื้นที่ของท่านทักษิณในครั้งนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน เพราะท่านเป็นคนมีวิสัยทัศน์ รู้การเปลี่ยนแปลงของโลก และรู้ว่าท้องถิ่นควรจะทำอะไร และเป็นการชี้แนะแนวทางในการพัฒนาท้องถิ่นต่อไป" นายวิวัฒน์ชัยกล่าว
