จันทบุรี - ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ เสนอ 3 แนวทางแก้ปัญหาตรวจพบสารห้ามใช้ในทุเรียนสดส่งไปจีน ชี้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้การส่งออกไปปลายทางไม่กระทบ ขณะภาครัฐต้องเร่งให้ความรู้เกษตรกร คู่การตรวจสอบตั้งแต่ขั้นแรกจากสวน
จากกรณีที่ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้ออกประกาศมาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียนผลสดที่ส่งออกไปยังประเทศจีน พ.ศ.2568 โดยกำหนดมาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ เช่น Basic Yellow 2 และหากมีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ต้องใช้ทั้งชนิดและปริมาณที่ถูกต้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง หรือตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 หรือข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า
และหากพบโรงคัดบรรจุใช้สารห้ามใช้หรือมีสารห้ามใช้ไว้ในครอบครอง จะถูกระงับการส่งออกและนำไปสู่การยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช หรือในกรณีที่เจ้าหน้าที่สงสัยว่า ทุเรียนมีการใช้สารห้ามใช้ ให้มีอำนาจสั่งให้โรงคัดบรรจุนำผลทุเรียนนั้นไปตรวจวิเคราะห์กับห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบรับรองสุขอนามัยพืช หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตาม กรมวิชาการเกษตรจะปฏิเสธการออกใบรับรองต่อไปนั้น
ล่าสุด วันนี้ (21 ม.ค.) นายมณฑล ปริวัฒน์ ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ได้เปิดเผยถึงความเข้มงวดของจีน โดยเฉพาะเรื่องผลการตรวจสารปนเปื้อน BY2 และแคดเมียมในทุเรียนไทยที่ส่งออกซึ่งจะต้องมีการแนบผลการตรวจว่าไม่มีการปนเปื้อนไปด้วย ว่ากำลังทำให้ผู้ประกอบการส่งออกต้องปรับตัวตามมาตรการที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดออกมาทั้งหมด เพื่อให้การส่งออกทุเรียนไปยังปลายทางไม่เกิดผลกระทบ
แต่สิ่งหนึ่งที่อยากเสนอต่อภาครัฐ และกรมวิชาการเกษตร เกี่ยวกับคำสั่งการที่ให้ผู้ประกอบการต้องแนบผลการตรวจสารปนเปื้อน BY2 ว่า 1.กรมวิชาการเกษตร จะต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจวิเคราะห์ผลทุเรียนส่งออกจากสวนในขั้นแรก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการปนเปื้อนใดๆ ตั้งแต่ต้นทาง
2.ต้องควบคุมการใช้สารใดๆ ในการปลูกทุเรียนอย่างจริงจัง และมีมาตรการเด็ดขาด สำหรับผู้ที่นำเข้าสารที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน หรือไม่ได้รับอนุญาตมาใช้ในการปลูกทุเรียน และลงไปให้ความรู้กับเกษตรกรในการใช้สารประกอบในการปลูกทุเรียนอย่างถูกต้อง
และ 3.ภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในประเทศไทยก่อนว่า ทุเรียนสามารถรับประทานได้ ด้วยการจัด Event หรืออื่นๆ ในพื้นที่ปลูกทุเรียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทย และต่างชาติได้เห็นว่า ผลไม้ไทยบริโภคได้ไม่มีการปนเปื้อน
ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผลไม้ยุคใหม่ ยังเผยถึงอนาคตของทุเรียนไทยว่ายังสามารถไปได้ไกลหากทุกฝ่ายทั้งชาวสวน ผู้ประกอบการ และภาครัฐ ร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ตรงกับที่ประเทศคู่ค้ากำหนด และไม่ควรโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงแต่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ระวังและต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก