นครพนม - หวย 12 ล้านบาทที่นครพนมเริ่มอลเวง "ผู้กองเข้ม" แจ้งจับ "ยายแหล่" ฐานยักยอกทรัพย์ ยันไม่ได้แบ่งล็อตเตอรี่ 1 ใบให้เพื่อจ่ายหนี้ค่าลาบ 120 บาท แค่ฝากไว้และตกลงกันถ้าถูกจะแบ่งคนละครึ่ง 3 ล้าน พอหวยออกตามทวงถามกลับหนีหาย ล่าสุดทราบว่าขึ้นเงินแล้วไปอิตาลี ส่วนผู้กองก็โดนทวงหนี้เหมือนกัน
จากกรณีนางบุญล้อม มิควาฬ อายุ 68 ปี หรือ ยายแหล่ เจ้าของร้านลาบก้อยยายใน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถูกลอตเตอรี่ หมายเลข 807777 งวดวันที่ 17 ม.ค.68 ได้เงินรางวัล 6 ล้านบาท อ้างว่าลอตเตอรี่ใบนี้ ผู้กองเข้มนำมาใช้หนี้ติดค่าลาบก้อย 120 บาท โดยนำมาขึ้นเงินรางวัลที่ร้านทองแห่งหนึ่ง อ.ธาตุพนม ขณะที่ผู้กองเข้ม ก็ได้นำสลากที่ถูกรางวัลมาขึ้นเงินที่ร้านทองเดียวกัน
ความคืบหน้า วันนี้( 21 ม.ค.)ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ พัฒนภูมิเศรษฐ์ อายุ 65 ปี หรือ ผู้กองเข้ม อดีตตำรวจ ตชด.235 นำหวยที่ซื้อ 7 ใบในจำนวน 9 ใบที่สลักหลังชื่อเข้มมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้ไปซื้อลอตเตอรี่กับแม่ค้าเร่ ขี่จักรยานมาขายให้ที่บ้านหนองหอย ซื้อทั้งหมด 9 ใบเป็นเลขชุด 2 ใบเลขเดี่ยว 1 ใบ เป็นเงิน 900 บาท ในจำนวนนี้มีถูกรางวัลที่ 1 รวม 2 ใบมูลค่า 12 ล้านบาท ตรวจดูวันประกาศผลรางวัลในแอปพิเคชั่นทางโทรศัพท์ช่วง 5 โมงเย็นจึงรู้ว่าถูกได้โชคก้อนใหญ่ จึงรีบนำลอตเตอรี่ที่ถูก 1 ใบมาแจ้งความไว้ที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อเป็นหลักฐาน
ผู้กองเข้ม กล่าวต่อว่า พอไปลงบันทึกประจำวัน ร้อยเวรบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกรางวัลที่ 1 มาแจ้งความเช่นกัน ซึ่งในข้อเท็จจริงตนไม่ได้นำหวยหมายเลข 8077779 ไปจ่ายหนี้แทนค่าลาบก้อย 120 บาทตามที่เป็นข่าว โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 17 ม.ค.68 ช่วงบ่าย 2 โมงครึ่ง วันหวยออก ตนนั่งกินอาหารอยู่ที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ นางบุญล้อม หรือยายแหล่ เห็นลอตเตอรี่ที่ตนเอาออกมาโชว์ ยายแหล่ถามว่ามีเลขอะไรบ้าง ตนจึงบอกไปว่ามีเลขท้าย 79, 97 ยายแหล่บอกเลขสวยจัง ยายแหล่จึงขอซื้อตน 1 ใบ จึงบอกกลับไปว่า ไม่ต้องซื้อหรอก ตนจึงให้ไป 1 ใบติดกับกระดาษที่แนบเขียนว่า 12 ล้าน
“บอกไปว่าไม่ต้องซื้อ จึงดึงแบ่งฉีกใบที่อยู่ด้านบนให้ 1 ใบ แล้วบอกยายแหล่ไม่ขายหรอก แต่ฝากไว้ ถ้าถูกรางวัลให้แบ่งกันคนละครึ่ง คือจุดประสงค์ที่มาชี้แจงวันนี้ เขาไปแจ้งความก่อน ผมไปแจ้งความตามหลังเขา ผมจึงไปพร้อมกับร้อยเวรที่รับแจ้งไปขึ้นเงินที่ร้านทองแห่งหนึ่งช่วง 5 โมงวันหวยออก”ผู้กองเข้มกล่าวและย้ำว่า ลอตเตอรี่ที่ฝากยายแหล่ไว้ก่อนหน้านี้ มีการตกลงต้องแบ่งครึ่งคนละ 3 ล้าน แต่ช่วงเช้าวันที่ 18 ม.ค.68 ตนไปพบยายแหล่ที่บ้าน เพื่อจะเอาเงิน 3 ล้านส่วนนี้ แต่ยายแหล่บอกจะเอาเงิน 1 ล้านบาทไปตั้งกองกฐิน ยายแหล่รับปากบอกจะแบ่งเงิน 2 ล้านบาทให้กับตน จึงไปกับเพื่อนทวงถามที่บ้านโคกสว่าง บ้านเกิดยายแหล่ก็ไม่พบ จึงต้องออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น
โดยวานนี้(20ม.ค.)เวลา 18.30 น. ตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ธาตุพนม เพื่อแจ้งจับยายแหล่ข้อหายักยอก หากยายแหล่นำเงิน 2 ล้านบาแบ่งตามที่ตกลงกันไว้จึงจะถอนแจ้งความ
ขณะที่นายเกรียงไกร ศักดิ์ดี อายุ 68 ปี ที่ปรึกษา สว. กล่าวว่า ผู้กองเข้มมาปรึกษาตนบอกว่าได้ฝากลอตเตอรี่ไว้กับยายแหล่ ไหว้วานให้ตนไปไกล่เกลี่ยกับยายแหล่ให้ด้วย ไปที่ร้านลาบก้อยแล้วแต่ไม่พบ ก็ตามไปที่บ้านโคกสว่าง กระทั่งเจอยายแหล่กับหลานสาว พูดไกล่เกลี่ยกับยายแหล่อยากได้เงินครึ่งหนึ่งคือ 3 ล้านที่ตกลงกันไว้ ยายแหล่บอกว่า 1 ล้านบาทจะไปทำบุญตั้งกองกฐิน จึงเปิดสปีกเกอร์โฟนให้ผู้กองเข้มฟังว่ายายแหล่จะแบ่งให้ 2 ล้านซึ่งตกลงกันแล้ว นัดกันวันนี้จะมาจ่ายที่หน้าร้านทอง โดยมีร้อยเวรจะมาเป็นพยานด้วย นัดจ่ายกัน ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลายายแหล่หายตัวไปเลย ไม่มาตามนัด
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ร้านลาบก้อยยายแหล่ ริมฝั่งแม่น้ำโขง พบว่าร้านปิด แต่พบญาตินั่งอยู่หน้าบ้าน 3 คน ญาตินางบุญล้อมคนหนึ่งกล่าวว่า ยายแหล่ไปอิตาลี หลังไปขึ้นเงินรางวัล 6 ล้านบาท ทราบว่าเบิกเงินสดมา 9-4 แสนบาท หลังถูกหักเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเงิน 6 หมื่นบาท เช้าตรู่วันที่ 18 ม.ค.68 พบผู้กองเข้มและเพื่อนมาพบที่ร้านลาบ แต่ตนไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างผู้กองเข้มกล่าวชี้แจง เพื่อน ร.ต.อ.ฐิติพัฒน์ ได้นำหนังสือบันทึกประนีประนอม มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย และมีชายคนหนึ่งเดินไปที่รถฟอร์จูนเนอร์ที่ผู้กองเข้มนั่งอยู่ พร้อมต่อว่าผู้กองเข้มว่าให้นำเงินที่ถูกรางวัลไปใช้หนี้สินคนอื่นที่ยืมมาด้วย