เชียงราย - อุทาหรณ์ขับรถเข้า-ออกวงเวียน..พ่อค้าหนุ่มเชียงรายเจอแจ้งจับหลายข้อหา หลังนักศึกษาหนุ่ม ม.ราชภัฏฯ พาแฟนสาวซ้อน จยย.เข้าวงเวียนหอนาฬิกา รถตามหลังกดแตรไล่ พอตะโกนบอก “รถในวงเวียนไปก่อน” กลับโดนขับรถไล่-ปาดหน้าจอดรถลงชกจนได้รับบาดเจ็บซ้ำ
วันนี้ (21 ม.ค.) พ.ต.ท.หญิง ชลธิชา ธรรมสอน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เปิดเผยถึงกรณีนายพัฒนศักดิ์ สัญญา อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และแฟนสาวได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกคนทำร้ายร่างกายเย็นวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังพากันขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายไปตามถนนบรรพปราการใจกลางเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย เมื่อไปถึงแยกหอนาฬิกา ขณะขี่รถไปทางตรงแต่ได้มีรถยนต์กระบะ 1 คันขับตามมาและกดแตรให้ตนขี่ตรงไป แต่แฟนตนตะโกนบอกว่าให้รถในวงเวียนไปก่อน ปรากฏว่าหลังจากนั้นคู่กรณีได้เปิดกระจกรถออกมาชี้หน้าด่า
นายพัฒนศักดิ์ให้การอีกว่า หลังจากนั้นตนได้ขี่รถไปปกติ แต่รถคู่กรณีได้ขับรถเบียด พ่นควันดำใส่ ซึ่งตนและแฟนสาวขี่รถต่อไปทางถนนสนามบินก่อนถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย ปรากฏว่าคู่กรณีได้ขับปาดหน้าก่อนจะลงมาชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บตรงคิ้ว ปากแตก แว่นตาหัก และแขนยกได้ไม่เป็นปกติ รวมทั้งยังข่มขู่ต่างๆ นานาก่อนจะมีคนทนเห็นเหตุการณ์ไม่ไหวจึงเข้าไปห้ามปราม
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะแยกย้ายผู้ก่อเหตุยังต่อยเข้าที่หน้าอีก 1 ครั้งด้วย ทำให้นายพัฒนศักดิ์ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จากนั้นจึงไปหาพนักงานสอบสวนดังกล่าว ทั้งนี้ หลังแจ้งความนายพัฒนศักดิ์ยังไม่กล้าไปมหาวิทยาลัยเพราะยังจิตตกและกลัวจะถูกดักทำร้ายอีก
ล่าสุดวันนี้เจ้าหน้าทีตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงรายได้ออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุจนทราบว่าเปิดร้านขายขนมอยู่บริเวณหน้าตลาดสดบ้านดู่ ต.บ้านดู่ แต่วันนี้ปิดร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปสอบถาม ณ ที่พัก เบื้องต้นให้การว่าเป็นบุคคลที่เป็นคู่กรณีจริง จึงได้แจ้งให้ไปมอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้ว
พ.ต.ท.ธวัชชัย ระวังสี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางไปมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เมื่อสอบถามเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายเยาวชนชายจริง อ้างว่าถูกด่า แต่จากการพิจารณาตามคลิปและเส้นทางพบว่าเยาวชนชายน่าจะอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง แต่ผู้ก่อเหตุอารมณ์ร้อนและรีบไปทำธุระรวมทั้งอ้างว่าถูกด่าจึงลงไปทำร้ายร่างกายตามคลิปดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดีเบื้องต้นในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากแพทย์ว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ มีกฎหมายจราจรและกำลังตรวจสอบรถว่าเป็นอย่างไรต่อไป ส่วนภาพรวมขอให้ประชาชนอย่าอารมณ์ร้อน ต้องรู้จักให้อภัยกัน เพราะถ้าเกิดความรุนแรงก็จะเกิดผลกระทบขึ้นมาเช่นเดียวกับกรณีนี้
