แม่ฮ่องสอน - ตรวจคนเข้าเมืองแม่ฮ่องสอนเชิญกลุ่มผู้แทน นักธุรกิจและชาวเมืองปาย ร่วมหารือแนวทางสางปัญหาต่างชาติลอบทำงาน-แอบทำธุรกิจ ฮุบพื้นที่เศรษฐกิจปาย จนแทบกลืนวิถีท้องถิ่น พบกลุ่มนักท่องเที่ยวแฝงตัวอยู่ยาวฝังรากลึกห้วงมา 3-4 ปี
กระแสข่าวกลุ่มนักธุรกิจและประชาชนชาวอำเภอปาย ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกรณีชาวต่างชาติลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตไปยังหน่วยงานต่างๆ ซึ่งตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ทางกลุ่มมีหนังสือร้องเรียนไปเพื่อให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง นั้น
ล่าสุด พ.ต.ท.วิชัย ปันนา สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน แจ้งว่า ตม.แม่ฮ่องสอน ส่วนแยกอำเภอปาย ต.เวียงใต้ อ.ปาย ได้เชิญกลุ่มผู้แทน นักธุรกิจและประชาชนชาวอำเภอปาย ร่วมประชุมหารือสรุปแนวทางการดำเนินการตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกรณีชาวต่างชาติลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ตม.เบื้องต้น คือ
1. หากประชาชนพบเห็นชาวต่างชาติ ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอปาย และสงสัยว่าประกอบอาชีพโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแส พร้อมหลักฐานเป็นภาพถ่าย คลิปวีดิโอที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน (ส่วนแยกอำเภอปาย) ได้ทันที
2. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะจัดทำช่องทางการแจ้งเบาะแสในเบื้องต้นเป็นกล่องรับเรื่องร้องทุกข์ และกลุ่มไลน์เฉพาะกิจ นอกจากนี้สามารถส่งข้อมูลมายังสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้โดยตรง
3. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน (ส่วนแยกอำเภอปาย) จะทำป้ายประกาศติดประกาศ Do/ Don't ที่สำนักงาน และในพื้นที่อำเภอปาย รณรงค์การปฏิบัติตัวของนักท่องเที่ยวและพฤติกรรมที่ไม่พึงปฏิบัติ
4. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะส่งต่อข้อมูลและประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะมีหลายประเด็นที่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น เพื่อแก้ไขปัญหา แต่อาจจะแก้ไม่ได้รวดเร็วตามความต้องการ
5. จะนำเรื่องทั้งหมดแจ้งต่อข้าราชการระดับสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดเวทีรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน, ผู้อยู่อาศัยและผู้ประกอบกิจการโดยตรง ขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง จะเป็นพลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
สำหรับปัญหาชาวต่างชาติครอบครองธุรกิจในอำเภอปายนั้น สั่งสมขึ้นมาเรื่อยๆ จากการเติบโตของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ให้ความนิยมเดินทางไปพักผ่อนหรืออยู่กันยาวๆ จนกระทั่งในห้วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เริ่มส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหรือผู้ที่อยู่ดั้งเดิมมากขึ้นตามลำดับ
ทั้งจำนวนของสถานบริการ ที่พักและกิจกรรมที่มากขึ้นตามไปด้วย พร้อมๆ กับปัญหาที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของการจราจรที่แออัดและไร้ระเบียบ การจัดระเบียบพื้นที่การท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน การประกอบอาชีพจนถึงมีการลักลอบเข้ามาประกอบการแอบแฝงในทุกรูปแบบ รวมถึงผลกระทบทางด้านเสียงในย่านบันเทิงและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ถูกกลืนไป
ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องของผลประโยชน์ คนเมืองปายและผู้ประกอบการในปายพยายามเรียกร้องให้หน่วยงานเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนจะล่าช้ากว่าปัญหาที่เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น จึงมีการออกมาเรียกร้องอยู่ในขณะนี้