มหาสารคาม-เป็นเรื่องน่าสลดหดหู่ พ่อค้าปลาตลาดแวงน่าง เมืองมหาสารคามเครียดจัด ยิงตัวตายในรีสอร์ท หลังถูกเจ้าหนี้ตามทวงเงินถึงแผงปลาทุกวันแต่ไม่สามารถจ่ายได้เพราะรายได้ไม่พอจ่าย เผยผู้ตายติดหนี้หลายเจ้าพร้อมกัน ซ้ำยังมีหนี้ดอกลอยคือจ่ายแต่ดอกไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดจนกว่าจะหาเงินก้อนคืนเงินต้นทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์สั่งการมหาสารคาม 1669 ได้รับแจ้งจากรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองมหาสารคามว่า มีลูกค้าล้มหมดสติในห้องน้ำก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพออกตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงกลับพบว่า ชายที่หมดสติมีการใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาสารคามและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุพบรถ กระบะโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บม 7702 มหาสารคาม จอดอยู่บริเวณข้างห้องในกระบะบรรทุกถังน้ำและอุปกรณ์ขายปลา มีรองเท้า 1 คู่ ถอดอยู่หน้าห้อง เจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บหลักฐานภายในห้องก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพนำศพออกมาชันสูตรที่ด้านนอก
ต่อมาทราบชื่อผู้ตายคือ นายจักรกฤษ อนุฤทธิ์ อายุ 32 ปี เป็นพ่อค้าขายปลาอยู่ที่ตลาดแวงน่าง อำเภอเมืองมหาสารคาม ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนปืนขนาด .38 ยิงตัวเองเข้าที่ขมับซ้ายกระสุนฝังใน ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ โดยมีกระเป๋าสะพาย ของใช้ส่วนตัว และบัตรประชาชนของผู้ตาย วางไว้บนหัวเตียง
สอบถามนางสาวนงค์นุช อุตราช พนักงานกู้ชีพ อบต.เขวา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์สั่งการมหาสารคามว่า มีคนหมดสติอยู่ในห้องน้ำ จึงได้ออกตรวจสอบก็พบว่า ผู้ตายนั่งพิงอยู่ เลยค่อย ๆ ผลักประตูห้องน้ำออกให้กว้าง ก็เห็นอาวุธปืนอยู่ที่ตัก ก็เลยรีบออกมาจากห้องพัก ก่อนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนั้นสภาพคือหมดสติแล้ว เห็นมีน้ำ อยู่ที่พื้น แต่ในห้องน้ำมืด ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นน้ำหรือเลือด พอเห็นว่ามีอาวุธปืนก็เลยออกมาเลย
ในเวลาต่อมามีญาติและเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าของนายจักรกฤษ เดินทางมายังที่เกิดเหตุต่างก็ร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายธวัช พิมพ์มาหา อายุ 74 ปี ตาของนายจักรกฤษกล่าวว่า นายจักรกฤษเป็นพ่อค้าขายปลาอยู่ที่ตลาด แวงน่าง ทุกวันเวลาออกไปหาซื้อปลามาขายหรือนำปลาไปขายที่ตลาด นายจักรกฤษจะพาตนไปด้วยทุกครั้ง แต่เมื่อวานนี้ผิดสังเกตคือ นายจักรกฤษไม่พาตนไปด้วย แล้วก็ไม่กลับบ้าน โดยไปส่งปลาด้วยกันล่าสุดอยู่ที่บ้านหนองเขื่อนช้าง อ.เมือง เมื่อเช้าวานนี้ช่วงตอนตีห้า หลังจากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย
กระทั่งมีคนโทรมาบอกว่าหลานตายแล้ว ซึ่งหลานชายมีปัญหาเรื่องเงิน ไปกู้เงินดอกมาหลายเจ้า หมุนเงินไม่ทัน รวม ๆ แล้วประมาณ 50,000-60,000 บาท เจ้าหนี้ก็ไปทวงทุกวันวันนี้ก็เข้าไปเพราะว่าโทรหาหลานไม่ติด ก็เลยเข้าไปหาที่บ้าน ก่อนที่ตนจะทราบว่าหลานเสียชีวิตแล้ว
ด้าน นางสุมิตรา ถาวร แม่ค้าขายปลาตลาดแวงน่าง กล่าวว่า นายจักรกฤษไม่ได้ไปขายปลา 2 วันแล้ว กลุ่มที่มาทวงหนี้ก็มาทวงทุกวัน นายจักรกฤษอาจจะกดดันเพราะบางทีขายของก็ยังไม่ทันได้เงิน ไม่รู้ว่านายจักรกฤษต้องส่งรายวันวันละเท่าไหร่ นอกจากส่งรายวันแล้วก็ยังมีเงินกู้แบบดอกลอย ดอกลอยจะส่งแบบไม่มีวันหมดถ้าไม่มีเงินต้นไปคืนก็ส่งดอกไปเรื่อย ๆ บางทีไม่มี ก็ขอผ่อนผันเจ้าหนี้ออกไปก่อน ขายของทุกวันนี้บางวันก็ขายได้ บางวันก็ขายไม่ได้
"ไม่คิดเลยว่านายจักรกฤษจะคิดสั้น ได้ยินพูดอยู่กับน้องว่าถ้ามันตันจริงๆจะหนีดีไหมน้องก็ว่าถ้าหนีก็คือตายลูกเดียว ก็เลยบอกไปว่าอย่าคิดสั้นไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ"