อุดรธานี-จ.อุดรธานีจัดวันที่ระลึกการตั้งเมืองอุดรธานี ปีที่ 132 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ผู้ก่อตั้งเมือง 18 ม.ค.2436
วันนี้ (18ม.ค.) ที่ วงเวียนพระอนุสาวรีย์กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานวันที่ระลึกการตั้งเมืองอุดรธานี ปีที่ 132 โดยมีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำประชาชนชาวอุดรธานีเข้าร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง โดยมีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 132 รูป พิธีถวายสักการะพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พิธีสงฆ์ พิธีบายศรีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง ถวายเครื่องสังเวยบูชา และอ่านประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติ พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม และการรำบวงสรวงสดุดี น้อมรำลึกในพระกรุณาธิคุณของพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี ที่ถือเป็นประเพณีที่จัดขึ้นทุกปี
โดยในปีนี้มีประชาชนมาร่วมรำรอบอนุสาวรีย์ และกระจายออกไปบนถนน 5 สาย จำนวนมาก และยังได้รับเกียรติจากหม่อมหลวงสราลี กิติยากร หรือคุณน้ำผึ้ง ให้เกียรติชาวอุดรธานีร่วมรำบวงสรวงสดุดีด้วย และนอกจากนี้ยังมีดาราและศิลปินอย่าง จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม ตุ๊กกี้ สุดารัตน์ บุตรพรม เก่งธชย ประทุมวรรณ นีน่า ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน และนางงามจากเวทีมิสแกรนด์ มาร่วมรำบวงสรวงฯ สร้างสีสันและความสวยงามรำบวงสรวงสดุดี
ทั้งนี้ช่วงค่ำวันเดียวกันจังหวัดอุดรธานี จะมีการเฉลิมฉลองวันที่ระลึกการตั้งเมืองอุดรธานี ปีที่ 132 โดยมีการแสดงหมอลำกลอน จากศิลปินพื้นบ้าน การแสดงพลุพิธีเปิด งานเฉลิมฉลองวันที่ระลึกการตั้งเมืองอุดรธานี ปีที่ 132 ณ ลานราชินูทิศ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นอกจากนี้ในวันที่ 19 มกราคม การแสดงสุดวิจิตรนาฏยศิลป์ขั้นสูง การแสดง “โขนนั่งราว” เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกนาคบาศ - ขาดเศียร ขาดกร และการแสดงนาฏศิลป์ รำเฉลิมฉลอง ชุด “มหัศจรรย์ อุดรธานี” จาก สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ณ ลานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม
พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 25 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับเจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ประสูติเมื่อวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2399 มีพระนามเดิมว่า “พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าทองกอง ก้อนใหญ่” พระองค์ทรงเป็นต้นราชสกุล “ทองใหญ่” เมื่อรัตนโกสินทร์ศก 112 ซึ่งตรงกับปีพุทธศักราช 2436 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ไทยเกิดกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับประเทศฝรั่งเศส
โดยฝรั่งเศสได้ส่งเรือรบเข้ามาปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาและบังคับให้ไทยยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง อันได้แก่ บริเวณประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปัจจุบันให้แก่ฝรั่งเศส
โดยไทยจะต้องไม่มีกองกำลังทหารในรัศมี 25 กิโลเมตร บนฝั่งฟากตะวันตกของแม่น้ำโขง ซึ่งในขณะนั้น พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์ ผู้สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือ มีกองบัญชาการตั้งอยู่ ณ เมืองหนองคาย จำเป็นต้องย้ายที่ตั้งกองบัญชาการลงมาทางใต้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช 2436 และทรงเห็นว่า “บ้านหมากแข้ง” มีทำเล และชัยภูมิเหมาะสมที่จะตั้งกองบัญชาการ สามารถใช้เป็นศูนย์กลางบังคับบัญชา ดูแลปกครองหัวเมืองโดยรอบได้ จึงทรงตั้งกองบัญชาการแห่งใหม่ขึ้น ณ ที่แห่งนี้
การตัดสินพระทัยของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถ และพระวิริยะอุตสาหะ ทรงอดทนต่อความตรากตรำลำบาก มิได้ท้อถอย ประกอบกับทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล “บ้านหมากแข้ง” จึงได้พัฒนาความเจริญรุ่งเรืองมาเป็น “จังหวัดอุดรธานี” ในปัจจุบัน