xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ปกครอง นักเรียนลุกฮือประท้วงไล่ ผอ.โรงเรียนดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สระบุรี - ผู้ปกครอง นักเรียนได้ออกมารวมตัวชูป้ายข้อความประท้วงเพื่อขับไล่ ผอ.โรงเรียนดัง ใช้อำนาจและกดดันครูอัตราจ้าง กดดันนักเรียน และทำร้ายร่างกายเด็ก

วันที่ (17 ม.ค.) ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้มีกลุ่มผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนจำนวนกว่า 30 คน รวมถึงนักเรียนอีกจำนวนกว่า 20 คน ได้ออกมารวมตัวชูป้ายข้อความประท้วงเพื่อขับไล่นางสรณ์ (นามสมมติ) ผู้อำนวยการโรงเรียน หลังจากใช้อำนาจกดดันนักเรียน ในเรื่องการทำร้ายร่างกายเด็ก เรื่องอาหารกลางวันและเรื่องทุนการกีฬาของเด็กนักเรียน และกดดันครูอัตราจ้างอย่างไม่เป็นธรรม จนทำให้ครูบางคนต้องขอลาออก และโรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนในระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นมัธยมปีที่ 3 มีครู 17 คน มีนักเรียน 180 กว่าคน

โดยการรวมตัวของกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนชั้นประถมและชั้นมัธยมปีที่ 3 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาคอยสังเกตการณ์ที่กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียน ได้พยายามเรียกให้ ผอ.ออกมาชี้แจงถึงปัญหาในประเด็นกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่มีคำตอบใดๆ ออกมา จนกระทั่งมีผู้ปกครองรายหนึ่งได้ตะโกนเรียกเสียงดังบริเวณหน้าห้องของ ผอ.ด้วยคำพูดประโยค ว่าเป็นอะไรถึงไม่ออกมา โคตรพ่อ โคตรแม่ของตนเองก็เรียนที่นี่ เปิดแอร์คุยโทรศัพท์สบายอยู่ในห้อง ส่วนพวกตนเองร้อนเหงื่อแตก แต่ไร้แววที่จะออกมาชี้แจง

กระทั่งนายสุธรรม เลิศนพคุณวงศ์ รองผู้อำนวยการ สพป.สระบุรี เขต 1 พร้อมคณะได้เดินทางมารับฟังปัญหาพร้อมกับเชิญตัวแทนผู้ปกครองจำนวน 5 คน และตัวแทนนักเรียนเข้าร่วมประชุมหาข้อยุติเรื่องดังกล่าว โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงออกจากห้องประชุม ส่วน ผอ.โรงเรียนได้หายตัวไปในระหว่างที่มีการประชุม

น.ส.เกษรา อัชชะ อายุ 36 ปี ตัวแทนผู้ปกครอง ได้สรุปผลการประชุม ว่า เขาขอเวลา 3 วัน คือวันจันทร์จะได้รู้ผลว่าเป็นยังไง ส่วนในเรื่องของการย้าย ผอ. ยังไม่รับปาก เขาแจ้งว่าจะต้องฟังความทั้ง 2 ฝ่าย แต่ถ้าหากทางเรามีข้อมูลที่หนักแน่นกว่า อาจจะมีสิทธิย้าย และการประชุมครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกเป็นครั้งที่ 2 พอครั้งที่ 2 เขาไม่ได้เอาตำแหน่งมา ซึ่งตอนนี้เขาจะต้องกลับมาประชุมกันว่าจะเป็นอย่างไร และทั้งหมดในการประชุม ผู้ปกครองทั้ง 5 ท่าน ไม่มีใครพอใจ ปัญหาส่วนใหญ่คือเรื่อง 1.ทำร้ายร่างกายเด็ก 2.ในเรื่องอาหารกลางวัน ที่กินแล้วไม่พอ ถามว่าแก้ปัญหายังไงก็ยังตอบไม่ได้ และ 3.เรื่องทุนการกีฬา แล้วตั้งข้อสงสัยว่างบที่ตัดออกมาเขาใช้ไปทำอะไร อย่างพ่อของน้องเคยเป็นนักกีฬามาก่อน เขาบอกว่าเป็นนักกีฬาไม่เคยหักค่าอะไร สรุปผู้ปกครองไม่พอใจ

น.ส.เอ และบี (นามสมมติ) ตัวแทนนักเรียน เล่าว่า ค่าอาหารกลางวัน ก่อนที่จะมีเรื่องนี้ น้อง ป.1 ได้ตับแค่ชิ้นเดียว กับผักประมาณสามชิ้น ถ้าเป็นไข่พะโล้ ได้แค่ไข่กับเลือด แต่ของมัธยมได้แค่อย่างเดียวแต่น้องจะได้สามอย่าง ส่วนเรื่องที่ครูกินข้าวกับนักเรียนไม่จริงครูจะแยกออกไปเลย แต่เขาจะจ่ายข้าวให้โรงเรียนทุกครั้งแต่ไม่เคยได้กินเลย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องค่าข้าว งบประมาณไม่พอใช้และมีเพื่อนหนูรายหนึ่ง เขาไปนั่งร่วมกับคนอื่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า แต่เพื่อนไปนั่งเฉยๆ ไม่เกี่ยวอะไรเลยยังโดนไล่ออก

นายสุธรรม เลิศนพคุณวงศ์ รองผู้อำนวยการ สพป.สระบุรี เขต 1 กล่าวผลสรุป ว่า ข้อสรุปในนาม สพป.เขต1 ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากพี่น้องในเขตบริการ โดยกล่าวหาผู้อำนวยการสถานศึกษา ว่าไม่อยากให้อยู่ตรงนี้ เรารับฟังข้อร้องเรียนจากท่านแต่เราต้องให้ความเป็นธรรมกับ ผอ.โรงเรียน เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นจริงหรือเท็จประการใดและจะได้แจ้งผู้ปกครองให้ทราบ และจะนำเรียนข้อมูลต่อ ผอ. เขตต่อไป

ครูเอฟ ครูอัตราจ้าง (นามสมมติ) เล่าว่า ตนสอนชั้นมัธยม ความอัดอั้นใจในการทำงาน ในกรณีที่เขาไม่ชอบเราเขาจะบีบให้คนอื่นไม่ชอบเราไปด้วย ไม่ให้มาสุงสิงด้วย เป็นครูมันต้องคุยกับครูคนอื่นบ้าง เวลาจัดกิจกรรม มันเป็นการสร้างผลกระทบในจิตใจ แล้วมันกลายเป็นว่าเราต้องทำงานคนเดียว ซึ่งมันไม่ได้มีแค่หัวหน้าคนเดียว มันกลายเป็นว่ามีมือขวาของเขาอีกคอยที่จะจับตามอง คอยไปบอกหัวหน้าเขาอีกที ซึ่งบางทีเราอยากจะคุยเรื่องงานกับคนอื่นบ้าง กับครูคนอื่นบ้าง แล้วถ้าหากคนที่เขาสั่งห้ามแล้วมาคุยกับเราเขาก็จะโดนตำหนิไปด้วย ซึ่งบางทีเราไม่อยากไปสร้างความเดือดร้อนให้ครูท่านนั้น ก็จะโดนกันเป็นช่วงๆ

ส่วนที่ผู้ปกครองและนักเรียนที่มีการประท้วงมันมีหลายอย่าง เช่น นักเรียนอาจจะไม่ได้มีปัญหากับครูแต่อาจไปพูดขัดใจหรือบางทีผู้ปกครองโทรไปหาทางหัวหน้าแล้วหลุดชื่อลูกตัวเองออกมา ก็เลยกลายเป็นว่าผู้ปกครองมีปัญหากับทางโรงเรียนกับวิธีการบริหารของเขาและในเรื่องการโดนตีก็เป็นอีกกรณี เป็นครูอีกคนหนึ่ง แต่เรื่องทั้งหมดเขาจะมีครูที่เป็นมือขวาคอยดูแลจัดการและในเรื่องอาหารกลางวัน

ส่วนตัวเองมันมีแต่ว่าคนอื่นอาจให้ข้อมูลได้ชัดเจนกว่าตนเอง และเรื่องการให้ ผอ.ลาออกจากโรงเรียนตนคิดว่าอยากให้มีทิศทางที่ดีกว่านี้ ถ้าเขาปรับแก้ปัญหาวิธีการทำงานให้มันมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ตนเองก็ยอมรับได้ เพราะว่าตนไม่ได้ต้องการให้เขาออกหรือรับโทษอะไรเพียงแค่ขอให้เขาปรับปรุงตัว ปรับวิธีคิดใหม่ และยังมีครูอีกหลายท่านที่อึดอัด บางทีก็พูดออกมาไม่ได้ด้วยมันเป็นการถูกกดดันหลายอย่าง เช่น บางทีโดนไล่ให้ออกแต่ก็ยังไม่มีใครถูกไล่ออกส่วนใหญ่จะออกเอง แต่การลาออกเองจะเป็นการถูกตำหนิถากถาง ว่าถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไปสิเปิดทางให้คนอื่นเขาเข้ามา











กำลังโหลดความคิดเห็น