เลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสงคราม อิสระกว่าครึ่งร้อยหาเสียงคึกคัก

สมุทรสงคราม - เลือกตั้ง ส.อบจ.สมุทรสงคราม อิสระกว่าครึ่งร้อยหาเสียงคึกคัก แต่เป้าหมายคือ ส.อบจ.หรือเช็กเรตติ้งตัวเองเพื่อไปสู่นายก อบต. ที่จะมีการเลือกตั้งต่อไป

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 นี้ ใครจะคิดว่า สมุทรสงคราม จังหวัดที่เล็กที่สุดของประเทศไทย และมีประชากรไม่ถึง 2 แสนคน จะมีผู้สนใจสมัครตำแหน่งนายกเพื่อต้องการเข้าไปบริหารงาน อบจ. มากถึง 6 คน ส่วนสมาชิกสภา อบจ.นั้นมีผู้สนใจสมัครถึง 108 คน ถูกตัดสิทธิเพราะถือหุ้นสื่อไป 1 คน เหลือ 107 คน แต่ยังมากกว่าจังหวัดใหญ่ๆ บางจังหวัด ที่สำคัญผู้สมัคร ส.อบจ.ครั้งนี้ สมัครแบบอิสระไม่สังกัดกลุ่มนายกคนใดกันถึง 62 คน 


นับเป็นประวัติการณ์ที่ จ.สมุทรสงครามไม่เคยมีมาก่อน จนมีผู้ตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามว่า เพราะอะไร ทำไมถึงอยากเข้าไปเป็น ส.อบจ. กัน ทั้งที่ต้องเสียเงินค่าสมัครแบบสูญเปล่าถึง 3 หมื่นบาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อาจเป็นเพราะอยากมีรายได้เป็นเงินเดือนที่แน่นอนตลอด 4 ปี หรืออยากมีหน้ามีตาในสังคม หรืออยากมีอำนาจมีบารมี หรืออยากเข้าไปทำประโยชน์เพื่อประชาชนจริงๆ

สำหรับ จ.สมุทรสงคราม มี 3 อำเภอ รวม 24 เขตเลือกตั้ง แยกเป็น อ.เมืองสมุทรสงครามจำนวน 13 เขต อ.อัมพวา 7 เขต และ อ.บางคนที 4 เขต เขตที่ผู้สมัครน้อยที่สุดคือ 2 คน คือ เขต 5 อ.เมืองสมุทรสงคราม ที่เหลือมี 4 คนขึ้นไปคือ มากที่สุด 6 คน มี 4 เขต อยู่ใน อ.เมืองสมุทรสงครามทั้งหมด เขตที่ผู้สมัคร 5 คน มี 6 เขต และเขตที่ผู้สมัคร 4 คน มากที่สุด 13 เขต ในจำนวนนี้เป็นผู้สมัครอิสระถึง 62 คน


เหตุผลอะไรที่ทำให้คนสมุทรสงคราม หันมาให้ความสนใจการเมืองท้องถิ่นกันมากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตำแหน่งนายก อบจ.แต่ละสมัยมีผู้สมัครกันแค่ 2-3 คน ส่วน ส.อบจ.อยู่ที่ประมาณ 50-60 คน และส่วนใหญ่จะเข้าสังกัดทีมนายกคนใดคนหนึ่งเพื่อช่วยกันหาคะแนนเสียงให้กันและกัน ส่วนผู้สมัครอิสระมีน้อยมาก เลือกตั้งแต่ละครั้งมีไม่เกิน 10 คน เมื่อมองลึกลงไปบางพื้นที่ โดยเฉพาะตำบลที่ผู้สมัคร 5-6 คน มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ปี 2568 ถือเป็นปีที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นถึง 3 ระดับที่มีการเลือกตั้งในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน คือ อบจ.ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.68 ต่อมาเทศบาลที่ครบวาระวันที่ 27 มี.ค.68 และ อบต.ที่ครบวาระวันที่ 27 พ.ย.68

ดังนั้นการเลือกตั้ง ส.อบจ.ที่มีผู้สมัครมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อาจเป็นเพราะว่าเป้าหมายบางคนจริงๆ แล้วไม่ได้คาดหวังกับตำแหน่ง ส.อบจ.เท่าไรนัก หากได้รับการเลือกตั้งก็เอา แต่หากสอบตกก็หาจุดอ่อนของตัวเอง เพราะเป้าหมายบางคนอยู่ที่นายก อบต. หรือนายกเทศมนตรีเทศบาลมากกว่า ที่ยอมเสียเงินค่าสมัคร ส.อบจ. 3 หมื่นบาท บางรายถือว่าคุ้มเพราะได้เช็กเรตติ้งตัวเองว่าได้รับคะแนนมากน้อยแค่ไหน หากได้คะแนนไม่ขี้เหร่ เช่น แพ้ ส.อบจ.ที่ได้อันดับ 1 แบบสูสีมีกำลังใจที่จะไปต่อที่ตำแหน่งนายก อบต.หรือนายกเทศมนตรีเทศบาล จะได้วางแผนล่วงหน้าโดยเฉพาะหัวคะแนนคู่แข่งเมื่อหมดภาระ ก็ตีสนิทคว้าตัวมาช่วยทำคะแนนให้ ก่อนที่คนอื่นจะคว้าตัวไป เพราะกฎหมายเลือกตั้งไม่ได้ห้ามว่าสอบตก ส.อบจ.แล้วลงสมัคร อบต.หรือเทศบาลไม่ได้ 


ส่วนผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงครามจำนวน 6 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 น.ส.กาญจน์สุดา ปานะสุทธะ เบอร์ 2 น.ส.นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย (เก่ง) จากพรรคประชาชน เบอร์ 3 น.ส.สุกัญญา เสาวสาร (ต้อย) เบอร์ 4 นายเจษฏา ญาณประภาศิริ (ส.จ.กอล์ฟ) เบอร์ 5 นายธนทัธ ขุนนุช (เอส) และเบอร์ 6 นายธีรพงษ์ ศรีกำเนิด (หม่อง) บรรยากาศการหาเสียงช่วงนี้ดูเรียบร้อยดีเกินคาด ไม่มีกระแสข่าวโจมตีให้ร้ายป้ายสีซึ่งกันและกัน แต่ละคนเอานโยบายมาขายเพื่อช่วงชิงคะแนนเสียง ที่เป็นห่วงคือช่วงโค้งสุดท้ายใกล้วันลงคะแนน ต่างคนต่างคงไม่ยอมกันง่ายๆ ใครมีเทคนิคมีกลยุทธ์อะไรให้ได้คะแนนจนเป็นผู้ชนะคงเอาออกมาใช้ จึงต้องฝาก กกต.ให้จับตาดูคืนหมาหอน เพราะจะทำให้คนนอนไม่หลับกันทั้งหมู่บ้าน

สำหรับ จ.สมุทรสงคราม ณ เดือน ธ.ค.67 มีประชากร 186,784 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ณ วันที่ 6 ม.ค.68 จำนวน 154,404 คน ทาง กกต.สมุทรสงคราม แจ้งว่าจะพยายามรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุด โดยตั้งเป้าไว้ไม่น้อยกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ และบัตรเสียไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์