มุกดาหาร - เปิดผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พระอนุชา อธิปญฺโญ หรือพระพล ต้องอาบัติสังฆาทิเสส สั่งให้พ้นวัดภายใน 7 วัน ยอมรับพูดจาเกี้ยวพาราสีกับฝ่ายหญิงเชิงชู้สาวจริง มีความผิดตามพระธรรมวินัย เป็นครุกาบัติ อาบัติสังฆาทิเสส พร้อมมีคำสั่งให้พ้นวัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัย
จากกรณี นางสาวบุญญาพร สุนทรวัฒน์ อดีตแม่ชี เข้าแจ้งความที่ สภ.นิคมคำสร้อย เพื่อเอาผิด พระอนุชา อธิปญฺโญ หรือ พระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร โดยกล่าวหาว่าพระพลมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตนเองตั้งแต่เดือน เม.ย. 2558 ในบริเวณวัด ซึ่งตอนนั้นตนเองเป็นแม่ชี พร้อมทั้งมีคลิปเสียงพระพลให้คำมั่นสัญญาว่าถ้าอยู่ช่วยกันสร้างเจดีย์จนเสร็จจะสึกออกไปแต่งงาน และยังมีหลักฐานเป็นแชตด้วย จนนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ล่าสุดคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีมติ ดังนี้ 1. กรณีที่พระพลยอมรับว่ามีการพูดจาเกี้ยวพาราสีกับฝ่ายหญิงเชิงชู้สาว มีความผิดตามพระธรรมวินัย เป็นครุกาบัติ อาบัติสังฆาทิเสส เห็นควรให้มีการลงโทษตามพระธรรมวินัย คือ เข้าปริวาสกรรม 2. เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติม จึงเห็นควรให้พระพลออกจากวัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่รับทราบคำวินิจฉัย
ด้านร้อยโท สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ หัวหน้าประสานการปฏิบัติ กลุ่มงานความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร (คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง) กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีความเห็นว่าพระพลมีพฤติกรรมไม่สมควรแก่สมณวิสัย โดยมีหลักฐานการสนทนาเชิงชู้สาวกับสีกา และคลิปเสียง และได้ยอมรับว่าสนทนาเชิงชู้สาวกับสีกาจริง
แต่ให้การภาคเสธในการเสพเมถุนกับสีกา สร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา จึงมีคำสั่ง พระพลย้ายสังกัดและออกจากพื้นที่วัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ และให้พระครูวิเวกศีลคุณ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ (16 ม.ค.) พระพลได้ตัดสินใจลาสิกขาด้วยตัวเองและบอกว่าในอนาคตจะกลับมาบวชใหม่ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครยืนยันหรือมีใครเห็นกับตาว่าพระพลได้ลาสิกขาไปแล้ว