กาญจนบุรี - ฝุ่น PM 2.5 จ.กาญจน์เกินค่ามาตรฐานทั้ง 13 อำเภอ สูงสุด อ.ไทรโยค นพ.สสจ.กาญจน์ แนะครอบครัวดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์
วันนี้ (16 ม.ค.) นายศิวะปกรณ์ วิเชียรเพริศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี ประจำวันที่ 16 ม.ค.668 เวลา 08.00 น.โดยสถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 40.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับจุดความร้อน (Hotspot) ย้อนหลัง 24 ชั่วโมง พบในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี 95 จุด ประกอบด้วย ป่าอนุรักษ์ 19 จุด ป่าสงวน 8 จุด เขต ส.ป.ก.17 จุด พื้นที่เกษตร 21 จุด ริมทางหลวง 2 จุด และอื่นๆ 28 จุด ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่มีแนวโน้มค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยจังหวัดกาญจนบุรีมีค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทั้ง 13 อำเภอ ส่วนอำเภอที่เกินค่ามาตรฐานสูงสุดคือ อ.ไทรโยค อยู่ที่ 45.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ไปพบปะนายวสันต์ สุนจิรัตน์ อดีตกำนัน ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ประธานเครือข่าย ทสม.เครือข่ายตำบลช่องสะเดา) รวมถึงนางละออ ภู่ประดิษฐ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.ช่องสะเดา เพื่อร่วมหารือประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับรู้ถึงผลกระทบที่ตามมา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีการลักลอบเผาป่าให้เห็นอยู่เป็นประจำ
ด้าน นายแพทย์ธีรพจน์ ฟักน้อย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวแนะนำให้เด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ และอ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์
ส่วนประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรหรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากอนามัย เป็นต้น
นายแพทย์ธีรพจน์ ฟักน้อย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของจังหวัดกาญจนบุรี มีแนวโน้มสูงเกินค่ามาตรฐาน ในช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนธันวาคม-เมษายนของทุกปี สาเหตุนอกจากสภาพอากาศที่ไม่สามารถควบคุมได้ และมีการเผาในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะในปี 2567 จังหวัดกาญจนบุรี ประสบปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ค่อนข้างมากและยาวนานกว่าปี 2566 สาเหตุหลักๆ มาจากการจุดเผาป่าในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค และอำเภอสังขละบุรี
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชนจากผลกระทบฝุ่น PM 2.5 ดังนั้นขอให้คนในครอบครัวติดตาม ดูแลกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษโดยเฉพาะ 4 กลุ่มเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคระบบทางเดินหายใจ และผู้ป่วยติดเตียง
สสจ.กาญจนบุรี พร้อมเปิดคลินิกมลพิษที่สถานพยาบาล คลินิกมลพิษออนไลน์และคลินิกมลพิษเคลื่อนที่ รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุข โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ สำรวจกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคหืดและโรคหัวใจขาดเลือด และให้การดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ รวมทั้งเฝ้าระวังการเจ็บป่วยใน 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง และระบบตา และรายงานผู้ป่วยที่มารับการรักษาในสถานพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ค่าปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 แนวทางปฏิบัติตน ค้นหาห้องปลอดฝุ่นและคลินิกมลพิษ รวมทั้งปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ผ่านทาง Line Official 4Health หรือเว็ปไซต์ กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย https://4health.anamai.moph.go.th/ หรือ เว็บไซต์คลินิกมลพิษออนไลน์ https://www.pollutionclinic.com/home/front/”