กาฬสินธุ์-เขื่อนลำปาวกาฬสินธุ์เพิ่มปริมาณส่งน้ำแบบขั้นบันได ช่วยพื้นที่ในเขตชลประทาน และพื้นที่ท้ายน้ำเฉลี่ยวันละ 6.23 ล้าน ลบ.ม. ด้านผอ.เขื่อนลำปาว เผยปริมาณน้ำเพียงพอ ขอความร่วมมือเกษตรกรในเขตชลประทานใช้น้ำอย่างประหยัด เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ส่งน้ำได้ทั่วถึง
วันนี้ ( 15 ม.ค.) นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวมีอยู่ 1,569 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บทั้งหมด 1,890 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 79 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี สามารถรองรับเรื่องความต้องการใช้น้ำของเกษตรกรในพื้นที่ชลประทานโครงการฯ หรือการใช้น้ำของส่วนต่างๆในพื้นที่ด้านท้ายได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ภายหลังจากเขื่อนลำปาวได้ประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) ซึ่งร่วมกันจากทุกภาคส่วน เพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงหน้าแล้ง 2567/2568 และได้เริ่มส่งน้ำมาตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยได้ส่งน้ำแบบขั้นบันไดเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เพื่อป้องกันความเสียหายของคลองส่งน้ำ และคาดว่าจะสามารถส่งน้ำเต็มศักยภาพภายในสัปดาห์นี้
ปัจจุบันทางโครงการได้ส่งน้ำเข้าคลองทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ประมง เพื่อการอุปโภค บริโภค รวมทั้งส่งน้ำลงลำน้ำปาวไปยังแม่น้ำชี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนประกอบด้วย จ. ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี เฉลี่ยรวมวันละ 6.23 ล้าน ลบ.ม.
นายสำรวย กล่าวต่อว่า ในส่วนของแผนการเพาะปลูกพืชช่วงฤดูแล้งนี้ คาดว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 280,000 – 300,000 ไร่ ซึ่งปริมาณน้ำในเขื่อนนั้นมีเพียงพออยู่แล้ว แต่ศักยภาพของคลองอาจจะส่งน้ำไปได้ไม่ทั่วถึงทั้งหมด ในที่ประชุมฯจึงได้กำหนดขอบเขตพื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยงได้รับน้ำได้ยาก รับน้ำไม่สะดวก และเกินศักยภาพการส่งน้ำ จึงขอให้เกษตรกรพิจารณาปลูกพืชใช้น้ำน้อย หรือปลูกพืชตามที่หน่วยงานราชการแนะนำ
เพื่อลดความเสียงของผลผลิตที่อาจจะเสียหายจากการได้รับน้ำไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามหากเกษตรกร หรือกลุ่มผู้ใช้น้ำต่างๆ ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทางเขื่อนก็จะสามารถจะส่งน้ำอย่างทั่วถึงได้อย่างแน่นอน