xs
xsm
sm
md
lg

เค้นสอบ “พระพล” เจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ เสพเมถุนแม่ชี ชี้หากผิดจริงโทษถึงปาราชิก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มุกดาหาร - สำนักงานพุทธศาสนาฯ สอบพระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ เสพเมถุนกับอดีตแม่ชีในวัด แม่ชีอ้างมีหลักฐานคลิปสนทนาและเอกสารแชตไลน์ รอสอบปากคำทั้งฝ่ายสีกาและพระ ชี้หากผิดจริงโทษถึงขั้นปาราชิก ท่ามกลางลูกศิษย์พระสงฆ์จำนวนมากให้กำลังใจ

สีกาที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอ้างมีหลักฐานคลิปสนทนา และแชตไลน์เอาผิดพระพล
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ห้องประชุมวัดเหล่าต้นยม ตำบลหนองแวง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พระครูวชิรธรรมพินิต เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวพระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือพระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร มีพฤติกรรมไม่สมควรแก่สมณวิสัย

มีหลักฐานการสนทนาเชิงชู้สาวกับสีกา เป็นคลิปเสียงและการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันไลน์ สร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ตามคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหารที่ ๐๒/๒๕๖๘ โดยมีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร ตำรวจ สภ.นิคมคำสร้อย และฝ่ายปกครองอำเภอนิคมคำสร้อย ร่วมประชุมด้วย

การประชุมในช่วงเช้าเป็นการสอบ น.ส.บุญญาพร สุนทรวัฒน์ อดีตแม่ชี ผู้เสียหายซึ่งยืนยันว่าพระพลได้มีเพศสัมพันธ์กับตนตั้งแต่ประมาณปี 2560 และเพิ่งมาเลิกยุ่งเกี่ยวกันในปี 2567 โดยครั้งแรกได้เสียกันที่บริเวณลานพญานาคภายในวัดดานพระอินทร์ ในวันนี้ได้มาให้ปากคำพร้อมด้วยพยานหลักฐานประกอบด้วยคลิปเสียงสนทนา เอกสารแชต line และหลักฐานสลิปการโอนเงินจากบัญชีพระพลมาเข้าบัญชีของตนจำนวนหลายครั้ง

พระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือพระพล กล่าวว่าอาตมาไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอความชอบธรรมด้วย อาตมาถูกรังแก จึงต้องการมาแสดงความบริสุทธิ์

ขณะที่พระครูวชิรธรรมพินิต ประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า วันนี้ช่วงเช้าเป็นการเชิญ น.ส.บุญญาพร สุนทรวัฒน์ อดีตแม่ชี ผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำประกอบเอกสารหลักฐานพยานในฐานะเป็นพยานและเป็นผู้เสียหาย ส่วนในช่วงบ่ายมีพระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือพระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ มาให้การแก้ข้อกล่าวหา




ด้านร้อยโท สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ รองหัวหน้าฝ่ายประสานการปฏิบัติ กลุ่มงานความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า วันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปกครอง ตำรวจ คณะสงฆ์ และเจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย ได้มาไต่สวนคู่กรณีฝ่ายหญิงในช่วงเช้า ได้บทสรุปข้อมูลไปแล้ว ส่วนช่วงบ่ายไต่สวนฝ่ายพระคู่กรณี ส่วนผลสรุปถ้าหลักฐานชัดเจน คณะกรรมการมีมติร่วมกันในการตัดสิน ไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งตัดสินเอาเอง

ถ้ามีหลักฐานเป็นการยืนยันเป็นการกระทำผิดจริง และมีการยอมรับมนการกระทำผิด ขั้นต่อไปก็อาจให้พระลาสิกขา อาจจะเป็นได้แต่ยังไม่ฟันธง ส่วนการสอบปากคำฝ่ายหญิง ได้สอบว่าเริ่มต้นได้มาอยู่ในวัดได้อย่างไร และได้คบหากันเชิงชู้สาวเมื่อไหร่ อย่างไร และทำอะไรครั้งแรก จนถึงปัจจุบันจนลุกลามไปจนถึงมีเพศสัมพันธ์กันลึกซึ้งกี่ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ไหนอย่างไร คือข้อมูลให้การด้วยวาจา

ส่วนหลักฐานเอกสารได้มอบให้คณะกรรมการรวบรวมไปสรุปรอช่วงบ่ายจากคู่กรณีฝ่ายชายมาให้การแล้วสรุปหักล้างกัน หาข้อเท็จจริงที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตัดสินเป็นการสิ้นสุด และทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการผู้มีอำนาจออกจากห้องสอบสวนทั้งหมดให้เหลือแต่พระกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนนั้นไม่มีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเลย แต่กลับมีอำนาจก้าวก่ายบทบาทเจ้าหน้าที่ที่มีคำสั่งแต่งตั้งในหนังสือ เห็นควรหรือไม่อย่างไร


ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะรวบรวมคำให้การพยานพร้อมพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายมาทำคำวินิจฉัย ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการเสพเมถุน ก็จะมีโทษถึงขั้นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ต้องลาสิกขา ส่วนผลการพิจารณาวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องหลังจากเสร็จการสอบปากคำพยานทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการจึงจะพิจารณาแล้วนำผลคำวินิจฉัยส่งให้เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหารเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น