เชียงใหม่ – “ป้าอ้วนดอยคำ” แจงละเอียดยิบกรณีเดินหน้าสร้าง “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์ใหญ่ที่สุดในโลกบนวัดพระธาตุดอยคำ ระบุดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายและได้รับใบอนุญาตก่อสร้าง พร้อมทำการปรับเปลี่ยนจุดที่ตั้งและลดความสูงลงให้เกิดความเหมาะสมแล้วตามชี้แนะของพระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันสอดคล้องกับตำนานความเชื่อเรื่องปู่แสะย่าแสะ หวังเป็นแลนด์มาร์คใหม่ดึงดูดผู้มีศรัทธาหลั่งไหลมาช่วยสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน พร้อมย้ำจะเป็นการก่อสร้างขนาดใหญ่ครั้งสุดท้ายของวัด
ความคืบหน้ากรณีที่ทางวัดพระธาตุดอยคำมีการดำเนินการก่อสร้างท้าวเวสสุวรรณทองเหลือองค์ใหญ่ที่สุดในโลกต่อ หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสดรามาถึงความไม่เหมาะสมจนทำให้หลายฝ่ายจนทางวัดต้องยุติการก่อสร้างไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ล่าสุดพบว่ามีการดำเนินการก่อสร้างต่อเนื่องขึ้นอีกครั้ง แต่มีการปรับเปลี่ยนจุดที่ตั้งขององค์ท้าวเวสสุวรรณจากเดิมที่อยู่บริเวณทางเข้าไปยังตัววัด ย้ายไปอยู่ชิดด้านทิศเหนือของลานหน้าวัดแทน พร้อมมีการปรับลดความสูงของฐานที่ตั้งลง โดยเวลานี้ได้ทำการเชื่อมต่อส่วนขาท่อนบนทั้ง 2 ข้างแล้ว และยังมีส่วนเศียรของท้าวเวสสุวรรณ ที่มีการนำผ้าแดงมาคลุมไว้ ส่วนใกล้กับที่ตั้งมีการนำป้ายไวนิลขนาดใหญ่พิมพ์ ใบอนุญาตก่อสร้างที่ออกโดยเทศบาลตำบลแม่เหียะ รวมทั้งใบอนุญาตการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง และต้นไม้ที่อยู่ใกล้สนามบิน ซึ่งมีการตรวจสอบแล้วว่าไม่กระทบกับการบิน ที่ออกโดย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยมาติดตั้งไว้ รวมทั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ร่วมกันทำบุญถวายทองเหลือง และเช่าบูชาวัตถุมงคลเพื่อสร้างท้าวเวสสุวรรณไว้ตามจุดต่างๆของวัด
ทั้งนี้นางศิวณัฐ รัชตดำรงรัตน์ หรือ "ป้าอ้วนดอยคำ" กรรมการเหรัญญิก วัดพระธาตุดอยคำ ในฐานะตัวแทนของวัดพระธาตุดอยคำ เปิดเผยว่า ตอนแรกทางวัดยอมรับว่าการก่อสร้างแต่เดิมนั้นมีการทำฐานสูง 2.80 เมตร และมีความสูงรวมแล้วกว่า 20 เมตร และจุดที่ตั้งของท้าวเวสสุวรรณนั้น ถูกท้วงติงถึงความไม่เหมาะสมอย่างเรื่องของความสูงที่หลายคนมองว่ามีความสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับองค์พระธาตุดอยคำ และองค์พระใหญ่ที่หน้าวัด ซึ่งถูกมองว่าไปบดบังองค์พระธาตุดอยคำ และตัวของท้าวเวสสุวรรณยังหันหน้าไปปะทะกับองค์พระใหญ่ ซึ่งถูกมองว่าไม่มีความเหมาะสมในเรื่องของความสูงและจุดที่ตั้ง ดังนั้นตอนนี้จึงได้มีการรื้อจุดเดิม และย้ายไปตั้งทางฝั่งทิศเหนือของลานหน้าวัด ปรับลดความสูงของฐานตามคำแนะนำของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ให้เหลือฐานความสูงเพียง 80 เซนติเมตร ทำให้ความสูงรวมของฐานและองค์ท้าวเวสสุวรรณอยู่ที่ 17.80 เมตร ซึ่งต่ำกว่าองค์พระใหญ่ที่มีความสูงประมาณ 22 เมตร และต่ำกว่าองค์พระธาตุที่มีความสูงประมาณ 23 เมตร
ขณะที่เมื่อมองจากพื้นราบจากด้างล่างของดอยคำก็จะเห็นเพียงช่วงเศียรของท้าวเวสสุวรรณเพียงเล็กน้อยไม่ได้บดบังองค์พระใหญ่ และองค์พระธาตุดอยคำแต่อย่างใด จึงเป็นจุดที่เหมาะสม และมีการไปขออนุญาตจากทางเจ้าคณะสงฆ์อย่างถูกต้อง รวมทั้งการไปขอใบอนุญาตก่อสรางจากทางเทศบาลตำบลแม่เหียะ และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้องแล้ว มีการส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเรียบร้อยแล้วถึงในการออกใบอนุยาตในการก่อสร้างให้ เพราะเขตที่ตั้งของวัดพระธาตุดอยคำเป็นเขตการบินในรัศมี 6 กิโลเมตรจึงถือว่าการดำเนินการก่อสร้างเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบ และข้อกฎหมายทุกประการ
นอกจากนี้ “ป้าอ้วนดอยคำ” มองว่าการสร้างรูปบูชาองค์ท้าวเวสสุวรรณนั้น สอดคล้องกับตำนานของพระธาตุดอยคำที่มีดวงวิญญาณยักษ์ปู่แสะย่าแสะเป็นผู้ปกปักรักษาดอยคำ รวมทั้งมองว่าเมื่อองค์ท้าวเวสสุวรรณทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกองค์นี้สร้างเสร็จแล้ว จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่สำหรับคนที่มีความเชื่อความศรัทธา ซึ่งจะทำให้เกิดรายได้กับชาวบ้านในพื้นที่และจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้น โดยในวันที่ 8 เม.ย.68 นี้ จะมีการจัดพิธีบวงสรวงใหญ่ขึ้น และคาดว่าจะมีศรัทธาประชาชนหลังไหลมาร่วมพิธีในครั้งนี้จำนวนมาก ส่วนประเด็นที่ถูกมองว่ามีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง และรูปบูชาขึ้นมากมายในวัดนั้น ยืนยันว่าองค์ท้าวเวสสุวรรณนี้จะเป็นรูปบูชาที่มีการสร้างเป็นสิ่งสุดท้ายภายในวัดพระธาตุดอยคำแล้ว และต่อจากนี้จะไม่มีการก่อสร้างสิ่งอื่นใดขนาดใหญ่ขึ้นมาอีก
