xs
xsm
sm
md
lg

เจาะศึกเลือกตั้ง อบจ.บุรีรัมย์เดือด! หลาน “เนวิน” ปะทะ “การุณ” ชิงนายก ‘ค่ายส้ม’ โดดแย่งเก้าอี้ “ส.อบจ.”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23-27 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิการเมืองท้องถิ่นบุรีรัมย์กลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง และเป็นจังหวัดที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นสนามระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ

สำหรับศึกเลือกตั้ง อบจ.บุรีรัมย์ครั้งนี้แบ่งออกเป็น 42 เขตเลือกตั้ง 2,645 หน่วยเลือกตั้ง ใน 23 อำเภอ 2,546 หมู่บ้าน มีผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ จำนวน 5 คน ถูกตัดสิทธิรับสมัคร 1 คน เหลือผู้สมัครนายก อบจ. 4 คน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์, หมายเลข 2 นางสาวพิมพ์ชนก รัตนบรรณกิจ, หมายเลข 3 นายณัฐกิตติ์ ล้อประสิทธิ์ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2563 และ หมายเลข 4 นายภูษิต เล็กอุดากร อดีตนายก อบจ.บุรีรัมย์ สมัยที่ผ่านมา เป็นหลานชายของ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงสู้ศึกในนามทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์”

นายการุณ ใสงาม อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 1
ส่วนผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง ใน 23 อำเภอของ จ.บุรีรัมย์ มีทั้งสิ้น 182 คน ถูกตัดสิทธิรับสมัคร 2 คน เหลือผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ 180 คน ได้แก่ ผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ ในนามทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์” 42 คน ลงสมัครครบทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง เป็นอดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ กว่า 30 คน และผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ในนาม “พรรคประชาชน (ปชน.)” จำนวน 9 คน ส่งสมัครใน 9 เขตเลือกตั้ง 7 อำเภอ ที่เหลือเป็นผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ ในนามอิสระ จำนวน 129 คน ใน 42 เขตเลือกตั้ง 23 อำเภอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมือง อดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ รวมทั้งข้าราชการบำนาญ ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกร และ ผู้นำชุมชน


มาวิเคราะห์เจาะลึก ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ทั้ง 4 คน ว่ามีดีเด่นดังอะไรบ้าง และกระแสประชาชนชาวบุรีรัมย์จะเลือกใครเข้ามาเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์ ในครั้งนี้

เริ่มที่ “นายการุณ ใสงาม” อดีต ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้สมัครนายก อบจ. หมายเลข 1 ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงการเมืองมาตลอดและเป็นการลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งแรก เพราะต้องการเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่นของบุรีรัมย์ รวมถึงเข้าไปทำหน้าที่ปราบทุจริตในทุกรูปแบบ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นใครปราบปรามการกระทำทุจริตอย่างจริงจัง รวมถึงอยากเข้ามาดูแลสวัสดิการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย โดยใช้งบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด

นายภูษิต เล็กอุดากร อดีตนายก อบจ.บุรีรัมย์ หลานนายเนวิน ชิดชอบ ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 4
ด้านคู่แข่งที่คาดว่าจะเปิดศึกสู้กันอย่างเข้มข้น คือ “นายภูษิต เล็กอุดากร” อดีตนายก อบจ.บุรีรัมย์สมัยที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหลานชายของ “นายเนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 4 ในนามทีมกลุ่ม “คนบุรีรัมย์” ขออาสามารับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้ง ที่มีฐานคะแนนแน่นปึ้กในแทบทุกพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ ฐานคะแนนหลักเป็นอดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ นายกเทศมนตรี และ อบต. โดยการเลือกตั้งคราวที่แล้วได้คะแนนมาท่วมท้น 439,547 คะแนน แต่ศึกครั้งนี้การเลือกตั้งยังไม่จบสิ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น


นายภูษิตกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน และไม่รู้สึกหนักใจเพราะการเมืองต้องมีคู่แข่งอยู่แล้ว เราแข่งขันกันโดยประชาธิปไตยไม่มีอะไร ส่วนเรื่องนโยบายจะสานต่อนโยบายเก่าที่ได้ทำไว้ และเพิ่มอีกนโยบายในเรื่องน้ำดื่ม น้ำสะอาด ของพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ และมั่นใจว่าการเลือกตั้งจะไม่มีความรุนแรง เพราะเราหาเสียงโดยความชอบธรรม ตามระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว จ.บุรีรัมย์เราหาเสียงกันแบบแฮปปี้ ไม่มีอะไรที่จะต้องมาใช้ความรุนแรง

ส่วนในตัวผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 เขต มั่นใจเพราะว่าผู้สมัครของเราแต่ละคนลงพื้นที่หนัก โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านมาดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดี ส่วนจะมีพรรคการเมืองอื่นเข้ามาหาเสียงในพื้นที่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เราหาเสียงในนามของ “คนบุรีรัมย์”

นางสาวพิมพ์ชนก รัตนบรรณกิจ ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 2
ขณะที่ผู้สมัครนายก อบจ.อีก 2 คน แม้ชื่อเสียงไม่โด่งดัง และไม่เคยผ่านสนามการเมืองท้องถิ่นมาเลยอย่าง หมายเลข 2 “นางสาวพิมพ์ชนก รัตนบรรณกิจ” ผู้สมัครอิสระ กับ หมายเลข 3 “นายณัฐกิตติ์ ล้อประสิทธิ์” อดีตผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2563 ได้คะแนน 21,697 คะแนน ที่ไม่ค่อยคาดหวังอะไรมากนักกับการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ขออาสามาเป็นตัวเลือกใหม่ในการตัดสินใจของพี่น้องชาวบุรีรัมย์ ซึ่งหลายคนมองว่าทั้ง 2 คนเป็นเพียงไม้ประดับ หวังคะแนนสงสารจากประชาชนทั้ง 23 อำเภอ เลือกเข้าไปทำหน้าที่บริหาร อบจ.บุรีรัมย์

นายณัฐกิตติ์ ล้อประสิทธิ์  ผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 3
ดังนั้น ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันกันระหว่าง “นายภูษิต” กับ “นายการุณ” ซึ่งทั้งสองต่างเป็นนักการเมืองในท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ต่างคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบนั้นต้องฟันธงไปที่เต็งหนึ่ง อย่าง “นายภูษิต” หลาน “เนวิน” ที่มีภาษีดีกว่าเกือบทุกด้าน แต่ “นายการุณ” ถือได้ว่าเป็นผู้สมัครอิสระที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน


ขณะที่ศึกชิงเก้าอี้ ส.อบจ.บุรีรัมย์นั้น พรรคประชาชน (ปชน.) แม้ไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.บุรีรัมย์ แต่ได้ส่งผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ จำนวน 9 คน ใน 9 เขตเลือกตั้ง 7 อำเภอ ทำให้มีการแข่งขันดุเดือดในหลายเขตเลือกตั้ง ระหว่างผู้สมัคร “กลุ่มคนบุรีรัมย์” ของนายภูษิต หลานเนวิน กับผู้สมัครของ “พรรคประชาชน” เพราะมีการแบ่งขั้วการเมืองกันอย่างชัดเจน อีกทั้งการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2566 ทางพรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันคือพรรคประชาชน ก็มีคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ใน จ.บุรีรัมย์มากเป็นอันดับหนึ่งด้วย จึงโดดลงสนามแบ่งเก้าอี้สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ในครั้งนี้

สำหรับบรรยากาศการหาเสียงเริ่มคึกคัก ทั้งผู้สมัครนายก อบจ. และ ส.อบจ. พบว่าส่วนมากใช้วิธีการแนะนำตัวผ่านสื่อโซเชียล และจัดทีมงานออกไปติดโปสเตอร์หาเสียงตามที่ต่างๆ พร้อมมีรถโฆษณาหาเสียงตระเวนไปทั่วในเขตเลือกตั้งตลอดทั้งวัน อีกทั้งมีการลงพื้นที่ออกพบปะตามหมู่บ้าน ชุมชนเพื่อขอคะแนนเสียงอีกด้วย

ทีมผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ พรรคประชาชน 9 คนใน 9 เขตเลือกตั้ง
สนามเลือกตั้งนายก อบจ.บุรีรัมย์ และสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ครั้งนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าจะมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง จะมีการส่งทีมงานเข้าไปเจาะหาผู้นำในชุมชน หมู่บ้านให้ช่วยเป็นหัวคะแนน เพื่อเจาะฐานเสียงคู่แข่งโดยอาศัยญาติพี่น้องและผู้ใกล้ชิด ซึ่งเป็นระบบคะแนนจัดตั้งที่ใช้ได้ผลมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ...ผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปใด คงต้องรอในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ จะเป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์จะเลือกใครเป็น “นายก อบจ.บุรีรัมย์” เข้ามาทำงาน และเลือกสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 42 คน เข้ามาเป็นปากเสียงในสภา อบจ.บุรีรัมย์ ครั้งนี้






กำลังโหลดความคิดเห็น