ชายแดนไทย/เมียนมา - เอ็นจีโอเครือข่ายประชาสังคมฯ แฉซ้ำ..คน 21 ปท.ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ในเมียนมากว่า 6,000 คน เป็นชาวจีนเกินครึ่ง ถูกบังคับทำงาน 4 บริษัทมาเฟียจีน ชี้ “ซิงซิง” แค่ตัวอย่างหนึ่ง โดนหลอกออกจากจีนผ่านไทยข้ามแม่สอดเข้าเขตอิทธิพลกองกำลังติดอาวุธ
เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์รายงานว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ถูกกักขังใช้งานอยู่ในประเทศเมียนมา กว่า 6,000 คน จาก 21 ประเทศทั่วโลก แต่ในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 3,900 คนเป็นชาวจีน ทั้งหมดต่างต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจจากการถูกบังคับให้ทำงานโดยมาเฟียชาวจีน มีการจับไปเรียกค่าไถ่ ถูกตัดขาดจากโลภายนอก ฯลฯ
ขณะที่สถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริการะบุว่าในเดือน พ.ค. 2567 องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา สร้างรายได้จากกิจการฉ้อโกงออนไลน์รวมกันกว่า 43.8 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
นายหวังซิง หรือซิงซิง ดาราชาวจีน ที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการไทยคนล่าสุดเป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ผู้คนในหลายประเทศออกมาเรียกร้องกับรัฐบาลของตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยญาติๆ ของตนที่กำลังทนทุกข์อยู่ในประเทศเมียนมา
เครือข่ายฯ ระบุอีกว่า พื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก อยู่ใกล้กับกลุ่มอาชญากรที่ใช้ชายแดนไทยในการส่งเหยื่อการค้ามนุษย์ บริเวณริมแม่น้ำเมยชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชาติพันธุ์ที่เป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) สังกัดกองทัพเมียนมา และกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ทำให้การช่วยเหลือผู้เสียหายมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2567 เป็นต้นมาทางเครือข่ายฯ ได้ประสานงานกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ในการช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะใน 4 บริษัทที่อยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านและมีการใช้ความรุนแรงและบางครั้งมีการฆาตกรรมเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม มีการคุมขังเหยื่อ มีการลงโทษด้วยวิธีการต่างๆ เช่น จี้ด้วยไฟฟ้า ใช้น้ำร้อนสาด บังคับให้ทำงานหนัก ให้หลอกลวงผู้คนผ่านโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์ม ขณะที่การช่วยเหลือไม่มีความคืบหน้า
เครือข่ายระบุอีกว่ากรณีของนายซิงซิง เขาถูกหลอกเดินทางมาจากประเทศจีน ผ่านประเทศไทยและข้ามพรมแดนไปทาง อ.แม่สอด จ.ตาก สะท้อนให้เห็นถึงความเหิมเกริมและไม่เกรงกลัวกฎหมายขององค์กรอาชญากรรมเหล่านี้ ที่ผ่านมาประเทศจีนประสบความสำเร็จในการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมทั้งภายในประเทศตัวเองและใน สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา จีนสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้หลายหมื่นคนและดำเนินคดีต่อกลุ่มคนเป็นจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว
"ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างจีน-ไทยเป็นสิ่งจำเป็นในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและแก้ไขวิกฤตการค้ามนุษย์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น เสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค และเปิดทางไปสู่ความก้าวหน้าสำคัญในระดับโลกต่อประเด็นที่ถูกละเลยมานาน เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ขอเรียกร้องให้ทางการจีนและทางการไทยดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ในประเทศเมียนมา ตลอดจนช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน" ตัวแทนเครือข่ายระบุ
