xs
xsm
sm
md
lg

“น้องปูกลอง” ถูกวิจารณ์แหลกไม่สมมงมาสคอตมหาสารคาม ผู้จัดประกวดแจงทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์ตัดสิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาสารคาม - ดรามาว่อนโซเชียล มาสคอตจังหวัดมหาสารคาม “น้องปูกลอง”ถูกตั้งข้อสงสัยชนะเลิศได้อย่างไร การออกแบบไม่สากล ไม่ทันสมัย สู้ผลงานอื่นที่เข้ารอบ 5 ชิ้นสุดท้ายไม่ได้ พร้อมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของกรรมการตัดสิน ด้านท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหน่วยงานจัดประกวดออกมาชี้แจงแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์การตัดสิน


กลายเป็นประเด็นดรามา ภายหลังจากที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคามประกาศผลการตัดสินการประกวดออกแบบมาสคอตจังหวัดมหาสารคาม โดยผู้ชนะจะได้เงินรางวัล 30,000 บาท โดยมีการเปิดให้ประชาชนร่วมกันโหวต คัดเลือกผู้เข้ารอบ 5 คน และนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการเพื่อตัดสินหาผู้ชนะเลิศ

ผลงานที่ได้รับรางวัล คือมาสคอต “น้องปูกลอง” แต่กลับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าการออกแบบไม่สากล ไม่ทันสมัย พร้อมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการตัดสินของคณะกรรมการ โดยชาวเน็ตยังได้แชร์ผลงานการออกแบบของ “น้องจำปาแป้ง” ซึ่งเป็นหนึ่งในงานที่ผ่านการเข้ารอบ 1 ใน 5 ผลงาน


ซึ่งต่อมาเจ้าของผลงาน “น้องจำปาแป้ง” ได้โพสต์ถึงผลงานตนเองว่า ได้เข้าท็อป 5 ก็ถือว่าเกินฝันแล้ว ซึ่งก็มีคนเข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมผลงานการออกแบบจำนวนมาก และภายหลังจากที่เกิดกระแสดรามา ทางเจ้าของผลงานน้องจำปาแป้งก็ได้โพสต์ชี้แจงว่า ไม่ได้โพสต์เพราะโบกรถทัวร์ให้ไปลงใคร ไม่ได้เจตนาอัปงานไปเรียกแขกให้มาดูว่าของฉันดีกว่า แค่อยากอัปเก็บไว้ดูเฉยๆ เพราะมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เห็นแนวคิดแบบละเอียดของยัยปูอ้วน ทุกผลงานสวยหมด งานศิลปะไม่มีงานไหนไม่สวย มีแค่ถูกใจกับไม่ถูกใจ ตลาดคนละกลุ่มกัน รสนิยมต่างกัน

ทุกคนตั้งใจหมด น้องคนชนะก็ทำเต็มที่มากๆ วันพรีเซ็นต์นั่งข้างๆ กันเลย เส้นสายมีมั้ยไม่รู้ มันเป็นเรื่องหลังบ้าน แต่ความพยายาม น้องมีค่ะ เราสัมผัสได้ ไม่อยากให้ไปแบลมผลงานหรือตัวน้อง น้องเพิ่งอยู่ปี 1 เอง ถ้าจะตั้งคำถาม ก็ตั้งคำถามกับระบบการประเมินดีกว่า ซึ่งเขาก็คงมีเกณฑ์การตัดสินของเขา ที่ผู้เข้าร่วมก็ต้องยอมรับให้ได้ ผิดหวังเสียใจก็มูฟออนไปต่อ แต่ผลงานตัดสินของกรรมการก็ถือเป็นที่สิ้นสุด เอ็นดูไม่เอ็นดูยังไงผลก็ออกมาแล้ว อยากสนับสนุนให้ใช้คำพูดที่ใจดีต่อกันดีกว่านะคะ

แล้วก็ขอบคุณคนที่มอบความรักและเอ็นดูยัยน้องจำปาแป้งเยอะขนาดนี้ คนออกแบบก็มีกำลังใจพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จะเอาทุกคอมเมนต์ทั้งชื่นชมและแนะนำ ไปปรับแก้ไข จะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อสร้างความสดใสส่งต่อความรักให้โลกนี้ต่อไปค่ะ


ด้าน นายการเอก สำราญชลารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมหาสารคาม ได้ออกมาชี้แจงว่า สืบเนื่องมาจากที่มีกระแสความเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่องผลการประกวดออกแบบมาสคอตประจำจังหวัดมหาสารคามนั้น ขอเรียนว่า ประการแรกในเรื่องของกระบวนการประกวด จังหวัดมหาสารคามได้ประชาสัมพันธ์และเชิญชวนสถาบันการศึกษาและบุคคลทั่วไปจากทั่วประเทศส่งผลงานมาสคอตเข้าประกวด แจ้งไปยังสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ 117 แห่ง มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด 80 ผลงาน โดยเป็นผู้ส่งผลงานในจังหวัด 52 ราย ต่างจังหวัด 28 ราย

ประการที่สอง หลักเกณฑ์เงื่อนไขของการประกวด เน้นในเรื่องของการออกแบบที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของจังหวัดมหาสารคาม มีความเป็นสากล ง่ายต่อการจดจำต่อการเป็นจังหวัดมหาสารคาม มองแล้วรู้ว่าเป็นมหาสารคาม

ประการที่สาม เกณฑ์การตัดสินผลงาน มี 2 รอบ

รอบที่ 1 ให้มีการโหวตมาสคอตทั้ง 80 ผลงานทาง google form ระหว่างวันที่ 12-22 ธันวาคม 2567 รวม 17 วัน ซึ่งมีผู้โหวตทั้งสิ้น 2,141 คน และผลงานที่มียอดโหวตสูงสุดอันดับ 1-5 ผ่านเข้ารอบตัดสิน

โดยที่ทั้ง 5 ผลงานนั้นเป็นของนักศึกษาจังหวัดมหาสารคาม 2 ราย และอีก 3 ราย เป็นนักศึกษาสถาบันในจังหวัดอื่น

ส่วนการตัดสินผลงานรอบที่ 2 จังหวัดมหาสารคามมีการเชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคมต่างๆ มาร่วมโหวต โดยให้เจ้าของผลงานนำเสนอคลิปผลงานหรือนำเสนอด้วยตนเอง


โดยครั้งที่ 1 ในการประชุมคณะกรมการจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งที่ประชุมประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ อธิการบดีสถาบันการศึกษา ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม และผู้แทนภาคเอกชนที่สำคัญ

สำหรับครั้งที่ 2 ได้มีการโหวตโดยภาคเอกชน เช่น หอการค้า กลุ่ม YEC สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ชมรมกีฬา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา โดยมาโหวตกันที่วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม

สาเหตุที่จัดสถานที่ดังกล่าว เนื่องจาก 2 ใน 5 รายเป็นชาวจังหวัดมหาสารคาม กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม หากจัดในสถานที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ก็จะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน จึงใช้สถานที่ของสถาบันการศึกษาที่เป็นกลางในการดำเนินการโหวต

ผลงานที่ได้รับการโหวตสูงสุดนั้น ถ้าพิจารณาในภาพรวมทั้ง 5 ผลงานที่เข้ารอบ ทั้งหมดสื่อในเรื่องอัตลักษณ์มหาสารคาม แต่ที่ได้รับการโหวตจากผู้เข้าร่วมโหวตทั้ง 205 คน อาจเนื่องจากผู้โหวตเห็นว่าผลงานดังกล่าวง่ายต่อการจดจำในฐานะความเป็นจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งปูทูลกระหม่อม เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม ที่ผู้คนรู้จัก และกลองยาวก็เป็นหนึ่งในงานประเพณีประจำจังหวัดมหาสารคามที่มีชื่อเสียง

สำหรับการที่ผลงานที่ชนะเลิศนี้มีลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาที่ผ่านมา ขอเรียนว่า
ได้ตรวจสอบแล้ว ไม่ได้เป็นการก๊อปปี้ผลงาน แต่ด้วยลักษณะของโครงสร้างที่นำปูมาออกแบบ และใช้สีเป็นสัญลักษณ์ของปูทูลกระหม่อมอยู่แล้ว จึงขอเรียนยืนยันว่า ผลงานที่ชนะการประกวดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ทุกประการ

ทั้งนี้ แนวคิดของมาสคอต น้องปูกลอง คือทุกองค์ประกอบของน้องเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ตัวของน้องปูเป็นตัวแทนของปูทูลกระหม่อม สัตว์ประจำท้องถิ่นของจังหวัดมหาสารคาม ที่สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและยังเป็นสัญลักษณ์ของการรักษาสมดุลของระบบนิเวศในท้องถิ่น

กลองยาว สื่อถึงเสียงแห่งศิลปะการแสดงประเพณีและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ผ้าไหมลายสร้อยดอกหมาก เป็นผลงานภูมิปัญญาชาวมหาสารคามที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ และยังสะท้อนถึงความประณีตงดงามในท้องถิ่น

ผ้าขาวม้า ที่น้องสวมใส่คือสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์ความเป็นไทย และแสดงถึงความอบอุ่น ความเป็นมิตรชองชาวบ้านในชุมชน น้องปูกลองทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการอนุรักษ์ธรรมชาติและความเป็นไทย น้องจะช่วยสื่อสารและส่งต่อคุณค่าของชาวมหาสารคาม ให้คนรุ่นใหม่เกิดความภาคภูมิใจในจังหวัดของตน


ส่วนแนวคิดของน้องจำปาแป้ง ตัวแทนแห่งความสดใสและเยาว์วัย มีที่มาจากสีคีย์เวิร์ดหลัก คือ ดอกจำปาขาว ปูแป้ง เมืองแห่งการศึกษา และลายสร้อยดอกหมาก ออกแบบภายใต้แนวคิด ถิ่นฐานอารยธรรม นำเสนอความมีชีวิตชีวา ความบริสุทธิ์นุ่มนวล และความหลากหลายทางวัฒนธรรม แรงบันดาลใจ การเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม นำสีขาวมาเป็นตัวแทนของสิ่งนามธรรม อย่างความเชื่อ ศาสนา การศึกษา และการเรียนรู้

ดอกจำปาขาว โดยใช้รูปทรงของดอกจำปาขาวมาทำเป็นเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ

ปูแป้ง หรือปูทูลกระหม่อม โดยนำรูปทรงของปูแป้งมาลดทอนองค์ประกอบให้เหมือนกันตัวการ์ตูนมีความน่ารักสดใส

ลายสร้อยดอกหมาย ซึ่งเป็นลายผ้าประจำจังหวัดมาใช้เป็นลวดลายบนตัวมาสคอต เชิดชูความเป็นอีสานตัวผ้าเบี่ยง หรือผ้าพาดไหล่ลายผ้าขาวม้าสีเหลือง ใบไม้สีเขียวได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไม้ที่อยู่ในธงประจำจังหวัดมหาสารคาม

สีที่ใช้เน้นสีพาสเทล ที่ให้ความสดใสร่าเริง เพื่อให้ดูเป็นมิตรไม่จัดจ้าน สีขาวมาจากสีของนักศึกษา สีของพระธาตุนาดูน และสีของดอกจำปาขาว สีเหลือง คือสีประจำจังหวัด และสีของผ้าห่มองค์พระธาตุนาดูน สีเขียว มาจาก สีของต้นไม้ใหญ่ในธงประจำจังหวัดมหาสารคาม และสีชมพู ฟ้า ส้ม เป็นสีที่ได้จากปูแป้ง ซึ่งเดิมทีคือสีแดงน้ำเงินส้ม เพื่อทำให้มาสคอตดูเป็นมิตร ไม่รู้สึกอันตราย


กำลังโหลดความคิดเห็น