xs
xsm
sm
md
lg

ความพยายามในการเปิดด่าน “บ้านพุน้ำร้อน-ทิกิ” ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่มีความไม่แน่นอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ความพยายามในการเปิดด่าน “บ้านพุน้ำร้อน-ทิกิ” ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่มีความไม่แน่นอน ล่าสุด จังหวัดได้มีการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในเปิดด่านถาวร ชี้ปัจจุบันสถานการณ์ฝั่งพม่าปลอดภัยสูง รอเพียงสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ

บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สุดเขตชายแดนไทย-พม่า แต่เดิมเป็นเพียงพื้นที่ติดแนวชายแดนที่มีชาวบ้านทั้งไทย และพม่า อาศัยอยู่เพียงบ้านเล็กๆ แต่หลังจากที่รัฐบาลพม่าเปิดประเทศให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนและดำเนินการพัฒนาประเทศพม่า ได้มีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งด้านสาธารณูปโภค การเงิน อุตสาหกรรม การขนส่ง ทำให้เงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาในพม่าอย่างไม่ขาดสาย


รวมทั้งโปรเจกต์ท่าเรือน้้าลึกทวาย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าหากโปรเจกต์นี้ดำเนินการสำเร็จ พม่าจะกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ (Logistics) ของอาเซียนทันที ซึ่งประเทศไทยเองย่อมได้ผลประโยชน์ มากมายจากโครงการนี้แน่นอน นักลงทุนและนักวิชาการต่างๆ รวมถึงรัฐบาลไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโอกาสในครั้งนี้ จึงเร่งดำเนินการพัฒนาความสัมพันธ์และคลี่คลายปัญหาตามแนวชายแดนกับประเทศพม่า และรัฐบาลได้วางโครงการพัฒนาบ้านพุน้ำร้อน ซึ่งอนาคตจะให้พัฒนาเป็นเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ทั้งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้เร่งดำเนินการวางผังโครงสร้างเมืองและจัดสรรที่ดินในบ้านพุน้ำร้อนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ให้เป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ และอาจใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย


ล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสังขละบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมเปิดทำการด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และบ้านทิกิ เมืองทวาย ประเทศพม่า เพื่อยืนยันความต้องการและความพร้อมในการเปิดทำการจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน และขอความอนุเคราะห์ในการเจรจากับฝ่ายพม่าให้เปิดทำการด่านบ้านทิกิ เมืองทวาย สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อแจ้งให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ รับทราบ

ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่มีพร้อม โดยเฉพาะหน่วยงานหลักอย่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แจ้งว่าเครื่องมือของ ตม.มีความพร้อมและทันสมัยมาก ส่วนอำเภอเมืองกาญจนบุรี มีความพร้อมเกี่ยวกับการทำหนังสือผ่านแดน ซึ่งอุปกรณ์เพิ่งได้มาใหม่ ส่วนทางด้านหน่วยงานศุลกากรนั้นมีบุคลากรและเครื่องมือต่างๆพร้อมปฏิบัติงานอยู่แล้ว รวมทั้งสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไม่มีมานานแล้ว เชื่อว่าน่าจะเปิดชายแดนได้ โดยใช้เวลาอีกไม่นาน ซึ่งอันที่จริงแล้วหลายฝ่ายอยากจะให้เรียบร้อยในช่วงปีใหม่นี้


สำหรับด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน เป็นพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรี เพราะเรามีเขตเศรษฐกิจพิเศษ หากเปิดการตลาดและมีการลงทุนเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท ซึ่งถ้าเปิดทำการได้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างพี่น้องชาวไทยและพม่า และจะเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานเข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งจะเป็นเส้นทางเข้าออกของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโตขึ้น สำหรับข้อปัญหาที่จะต้องดำเนินการคือ การสอบถามไปยังฝ่ายความมั่นคงของพม่าให้ชัดเจนว่า พื้นที่ฝั่งพม่านั้นมีความปลอดภัยแค่ไหน แต่ที่เท่าที่ทราบคือขณะนี้ฝั่งพม่านั้นมีความปลอดภัยที่สูง


ขณะที่ข้อมูลนำเข้า-ส่งออก สินค้าส่วนใหญ่เป็นก๊าซ ส่งผ่านช่องบ้านอีต่อง ของศูนย์ปฏิบัติการระบบท่อก๊าซเขต 8 ไทรโยคของ ปตท.กว่า 90% ส่วนที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กุ้งแช่เย็น ปลากะพงแช่เย็น น้ำมันดีเซล เครื่องปรุงรส

สำหรับด่านพรมแดนบ้านพุน้ำร้อน เป็นด่านศุลกากรแห่งใหม่ที่เพิ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2562 มูลค่าโครงการกว่า 711 ล้านบาท บนเนื้อที่ 1,307 ไร่ มีความสำคัญในด้านภูมิศาสตร์เชื่อมภาคตะวันตกและตะวันออก โดยรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งของไทยในอาเซียน ที่เชื่อมกับท่าเรือน้ำลึกทวาย จะเสริมศักยภาพการเป็นโลจิสติกส์ ฮับของประเทศไทย โดยจะเชื่อมโยงท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศพม่า กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพราะสินค้าที่มาจากยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียใต้ จะผ่านท่าเรือน้ำลึกทวายออกสู่ท่าเรือแหลงฉบัง ภายในวันเดียว และสามารถส่งไปสู่ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น หรือประเทศในแถบแปซิฟิก ได้รวดเร็ว และสะดวกสบาย


ความคาดหวังที่จะปั้นบ้านพุน้ำร้อนเป็นจุดผ่านแดนถาวร ตามนโยบายที่จะให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งของไทยในอาเซียน หวังให้ท่าเรือน้ำลึกทวาย เสริมศักยภาพการเป็นโลจิสติกส์ ฮับ (LogisticsHub) ของประเทศไทย ณ เวลานี้คงอยู่ที่ความพร้อมของประเทศพม่า ขณะที่ไทยพร้อม 100%
กำลังโหลดความคิดเห็น