วอนประชาชนหยุดลอบเผาป่า เพื่อประโยชน์ส่วนตัว

กาญจนบุรี - ผอ.สบอ.3 สั่งทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่า ด้านหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ขอให้ประชาชนหยุดลอบเผาเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

วันนี้ (4 ม.ค.) นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หรือหัวหน้าเอก หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้รับการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งแรกของไทยเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2508 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 858.55 ตารางกิโลเมตร หรือ 536,594 ไร่ มีเขตรอยต่อ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอบ่อพลอย และอำเภอหนองปรือ สังคมพืชเป็นป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ

ซึ่งพื้นที่ป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่จังหวัดที่มีความแห้งแล้งเร็วกว่าพื้นที่อื่น เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ และเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร เป็นต้น ซึ่งพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นป่าเบญจพรรณ มีไผ่อยู่หลากหลายชนิด เช่น ไผ่รวก ไผ่ป่า ผสมกับไม้จำพวกไม้แดง มะค่าโมง ประดู่ ตะแบก และป่าเต็งรัง ซึ่งล้วนเป็นสังคมไม้ป่าผลัดใบทั้งสิ้น

เมื่อถึงช่วงฤดูร้อนของทุกปีจะเกิดความแห้งแล้งอย่างรวดเร็วทำให้ใบไม้ที่แห้งร่วงหล่นมาสะสมกองอยู่กับพื้นอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะบนภูเขาสูงที่สลับซับซ้อน เมื่อใบไม้แห้งกองสะสมหนาแน่นทำให้ติดไฟได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นสาเหตุของการเกิดไฟป่าขึ้นให้เห็นเป็นประจำทุกปี

สาเหตุของการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่นั้นเกิดจากฝีมือของมนุษย์ที่นิยมลักลอบเข้ามาจุดไฟเผาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่คิดถึงส่วนรวม เช่น การเผาเพื่อต้องการล่าสัตว์ป่า รวมถึงหาของป่า เช่น ต้องการผักหวาน รวมถึงเห็ดเผาะ และตีผึ้งหวังนำไปกินและนำไปขายให้ร้านอาหาร รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี

ที่สำคัญการเผาหากลุกลามเข้าไปไหม้ผืนป่าที่เป็นป่าเต็งรัง จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผืนป่า ซึ่งหากเกิดความรุนแรงจะก่อให้เกิดการล้มตายของพืชป่าหลากชนิด รวมถึงสัตว์ป่าขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ทั่วไป ผลร้ายของการเผาป่าเพื่อประโยชน์ส่วนตัวจะไม่คุ้มค่าต่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแน่นอน

ดังนั้น จึงขอความร่วมมือไปยังประชาชนให้มีความเข้าใจกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากไฟป่า และให้มาร่วมด้วยช่วยกันป้องกันในการเป็นหูเป็นตาร่วมกับเจ้าหน้าที่ เพื่อลดและหยุดการเกิดไฟป่าในพื้นที่ ซึ่งทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระจะได้ไปพบปะพูดคุยกับประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ เพื่อประชาสัมพันธ์ในการสร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบของการลักลอบเผาป่าที่จะมีตามมาในภายหลัง แต่เชื่อว่าหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบต่างเข้าใจถึงผลกระทบอยู่แล้ว

นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ในการที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าและระงับการเกิดไฟได้ทันท่วงทีนั้น ทางเขตได้ดำเนินงานตามแนวทางข้อสั่งการของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด้วยการใช้แนวทางของการปฏิบัติงานแบบบูรณาการ

มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ไฟป่าภายในเขต War room โดยมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมติดตามการดำเนินการ โดยในศูนย์จะมีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าสลักพระ และเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เป็นหลัก โดยมีผู้นำชุมชน พร้อมเครือข่ายชุมชนเกี่ยวกับไฟป่า รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้บริหารระดับสูง เข้าร่วม

หลายวันที่ผ่านมา นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วยนายประวัฒน์ พวงทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และคณะได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจจุดเสี่ยงของการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) พร้อมสั่งการให้ดำเนินการจัดทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าในอนาคตต่อไป