ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เลือกตั้ง อบจ.โคราชเดือด ทนายโคราช ร้อง กกต.ให้ตรวจสอบ “เจ๊หน่อย ยลดา” ผู้สมัครนายก อบจ.พรรคเพื่อไทย และพวก 35 คน โอนงบฯ กว่า 23 ล้านโดยมิชอบ ไม่ปฏิบัติตาม ม.65 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น ผิดจริงถึงขั้นโดนใบแดง ขณะผลการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครฯ พบผู้สมัคร ส.อบจ.3 คน ขาดคุณสมบัติ
วันนี้ ( 4 ม.ค.68 ) ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายสุนทร แพงไพรี ทนายความ ชาว อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ได้เดินทางเข้าพบ นายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำอันอาจจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย และพวก จำนวน 35 คน ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
นายสุนทร แพงไพรี กล่าวว่า วันนี้ ตนมาในฐานะประชาชนชาวโคราชคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. นครราชสีมา และ ส.อบจ.ในพื้นที่ และอยากเห็นผู้สมัครฯ ทุกคน มีความสุจริตโปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งวันนี้มาร้องเรียนขอให้ กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบคุณสมบัติของ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา คนล่าสุด
พบว่า ขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ในการประชุมสภา อบจ.นครราชสีมา สมัยสามัญที่ 2 ครั้งที่ 3 ได้ยื่นญัตติขออนุมัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไปตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ โดยมี ส.อบจ.เข้าร่วมประชุม จำนวน 39 คน ยกมือเห็นชอบตามที่ นายก อบจ.นครราชสีมา เสนอญัตติ จำนวน 36 คน (รวม นายก อบจ.) และงดออกเสียง จำนวน 3 คน ซึ่งการกระทำดังกล่าว มีลักษณะเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 65 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 (และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 รวมทั้งสิ้น 12 โครงการ เป็นเงินทั้งสิ้น 23,873,918 บาท เนื่องจากในห้วงระยะเวลาดังกล่าว ไม่มีภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติแต่อย่างใด
ต่อมา นางยลดา ได้ขอลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 พร้อมกับ ส.อบจ.ในกลุ่มอีก 15 คน ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ ซึ่งการกระทำของนางยลดา และ ส.อบจ.เกี่ยวกับการอนุมัติโครงการดังกล่าว อาจเป็นการกระทำฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 มาตรา 65 ซึ่งมีโทษตาม 126 แห่งกฎหมายดังกล่าวหรือไม่
ทั้งนี้ หากพบว่ากระทำผิดจริง อาจถึงขั้นโดนใบแดงได้เลย วันนี้ ตนจึงได้มาร้องขอให้ กกต.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เร่งดำเนินการตรวจสอบ เพราะจะมีผลกระทบต่อความไม่สุจริตในการเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ.นครราชสีมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ด้วย
ด้าน นายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้สมัครนายก อบจ.จำนวน 4 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายทักษิณ เขื่อนโคกสูง, เบอร์ 2 นางยลดา หวังศุภกิจโกศล , เบอร์ 3 นายมารุต ชุ่มขุนทด และเบอร์ 4 ร.ต.อ.นิติรักษ์ ฟักกระโทก ในส่วนผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา ทั้ง 48 เขต จาก 32 อำเภอ มีผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 153 คน
โดยทาง ก.ก.ต.ประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จสิ้นไปแล้ววันสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจสอบคุณสมบัติ ปรากฏว่า ในส่วนผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 4 คน มีคุณสมบัติครบทุกคน ขณะที่ผู้สมัคร ส.อบจ.จำนวน 153 คน พบว่า ขาดคุณสมบัติไป 3 คน ประกอบไปด้วย ผู้สมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.สีคิ้ว , เขต 1 อ.จักราช และ เขต 1 อ.ชุมพวง ซึ่งผู้สมัครทั้ง 3 รายนี้ ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมเทศบาลฯ จึงทำให้ขาดสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบจ.ในครั้งนี้
ส่วนเรื่องการร้องเรียนขณะนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของผู้สมัครร้องเรียนพฤติกรรมของผู้สมัครด้วยกันเอง ที่อาจเป็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะเดียวกันเรื่องการป้องกันเหตุความรุนแรงในพื้นที่ ขณะนี้ทาง กกต.จังหวัดนครราชสีมา ได้ตั้งชุดสืบสวนข่าว 3 ชุด และชุดเคลื่อนที่เร็ว 6 ชุด ทำงานร่วมกับผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครราชสีมา 8 คน เพื่อหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่อาจจะก่อเหตุความรุนแรง หากมีเบาะแสก็พร้อมประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ. เข้าไประงับเหตุได้ทันที ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 23567 ที่ผ่านมา