พิษณุโลก - หนุ่มช่างภาพขอทวงคืนความเป็นธรรม หลังถูกลูกค้าสาวจ้างถ่ายพรีเวดดิ้งแล้วไม่พอใจโพสต์ประจาน ตั้งเรื่องฟ้องกลับทั้งแพ่งและอาญา สุดท้ายศาลตัดสินให้ชนะคดี แต่จนถึงทุกวันนี้คู่กรณียังไม่ยอมโผล่หน้ามารับผิดชอบ
ผู้ใช้ TilTok รายหนึ่งได้โพสต์คลิปเหตุการณ์กรณีที่ตนเองเคยถูกลูกค้าสาวรายหนึ่งว่าจ้างให้ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในสวนต้นกล้วยด่างแห่งหนึ่ง แต่มีประเด็นดรามาเกิดขึ้นจนกลายเป็นไวรัล เพราะฝ่ายลูกค้าสาวได้นำรูปภาพที่ช่างภาพยังไม่ได้แต่งรีทัชไปโพสต์ประจานหนุ่มช่างภาพรายนี้ ว่าถ่ายภาพออกมาไม่สวยมือเท้ายาวเหมือนผีแม่นาคบ้าง และมีชาวโซเชียลแห่เข้าไปผสมโรงคอมเมนต์เสียงแตกเป็นสองฝั่ง มีการแชร์ต่อออกไปจำนวนมาก ซึ่งสื่อหลายๆ สำนักมีการนำเสนอข่าวนี้อย่างกว้างขวางด้วย
ล่าสุด นายอนนต์ อนันตโชควาณิช อายุ 25 ปี เจ้าของร้านถ่ายภาพ With You Studio อ.เมืองพิษณุโลก ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวกับสื่อมวลชนว่า วันนี้ขอทวงคืนความเป็นธรรมให้กับตัวเอง กรณีเมื่อปี 2564 ได้ถูกลูกค้าสาวโพสต์ประจานบนโซเชียลและถูกพูดข่มขู่ฟ้องร้อง ทำให้ตัวเองต้องฟ้องกลับต่อสู้ในคดีหมิ่นประมาทและเจตนาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
จนสุดท้ายศาลตัดสินพิพากษาให้ชนะคดีในปี 2566 เรียกค่าเสียหายไปจำนวน 400,000 บาท เพื่อให้คู่กรณีมาเจรจา แต่ศาลพิจารณาเรื่องเรียกค่าเสียหายจริงจำนวน 60,000 บาท ดอกเบี้ยปีละ 3,000 บาท ตั้งแต่วันที่เกิดคดีความขึ้นซึ่งผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ไม่สามารถติดต่อคู่กรณีได้และยังไม่มีการจ่ายชำระเงินเยียวยาเรื่องค่าเสียหายแต่อย่างใด ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป คือ ให้ทนายความดำเนินเรื่องคดีความเพื่อบังคับคดียึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อคู่กรณี
นายอนนต์ ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ตนฟ้องทั้งแพ่งและอาญาจนชนะทั้งหมด มีการพิสูจน์แล้วว่าการกระทำของตนนั้นถูกต้องและสิ่งที่ลูกค้าสาวรายนี้กระทำมันไม่ถูกต้อง ผ่านกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลแล้ว อยากให้สังคมมองว่าการโพสต์ประจานผู้อื่นโดยปราศจากการพิจารณาไตร่ตรองเป็นเรื่องผิดกฎหมายและมีราคาที่ต้องจ่าย
ซึ่งที่จริงแล้วตนเองไม่ได้อยากได้เงินของคู่กรณี และไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวกับลูกค้าจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่ต้องออกมาปกป้องชื่อเสียงและทำเพื่อความถูกต้อง สุดท้ายหลังศาลตัดสินลูกค้าสาวรายนี้ก็ไม่เคยมีการพูดคุยเพื่อขอไกล่เกลี่ย หรือติดต่อพูดคุยเพื่อขอโทษตนจากสิ่งที่ได้กระทำลงไป
“คู่กรณียังใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว ส่วนผมนั้นต่อสู้คดีมา 2 ปี ขึ้นศาลหลายครั้ง ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ปัจจุบันก็ยังได้รับผลกระทบจากเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ลูกค้ากลัวกับการมีเรื่องมีราวจนเป็นข่าวใหญ่โต ลูกค้าบางรายไม่ไว้ใจว่าจะถ่ายภาพออกมาดีไหม ส่งผลให้รายได้ลดลงหายไปจำนวนมากเกิน 70 เปอร์เซ็นต์จากที่เคยได้รับ”
ดังนั้นตนต้องออกมาพูดและอธิบายให้คนเข้าใจว่าเรื่องนี้เราถูกต้องตามกฎหมาย ณ ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ตนก็ยังคงตั้งใจทำงานที่รักอยู่เหมือนเดิม ไม่อยากให้ลูกค้ารายใหม่เข้าใจตนผิดๆ และอยากจะฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ไม่ว่าจะเป็นเคสของช่างภาพกับเจ้าสาว หากต้องมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นไม่ควรพูดจาข่มขู่กัน ควรหันหน้ามาพูดคุยกันดีๆ ด้วยเหตุผลให้เข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ว่าสามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ไหม ซึ่งที่ผ่านมาตนได้แก้ไขงานที่ลูกค้าต้องการจนสุดความสามารถแล้วแต่ลูกค้ารายนี้ก็ยังไม่พอใจ ส่วนเรื่องของการโพสต์ประจานผู้อื่นนั้น ถือว่าเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายต้องระวัง
