เชียงใหม่ - กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เพื่อติดตามการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละมากกว่า 3.3 หมื่นคน เพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่างพึงพอใจการใช้ระบบเช็กอินและรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ
วันนี้ (2 ม.ค. 68) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (กอญ.) เดินทางตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เพื่อติดตามการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตามนโยบายของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีนาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ และผู้บริหารท่าอากาศยานเชียงใหม่ ร่วมนำเสนอข้อมูลและรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบาย “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” ในห้วงวันที่ 26 ธ.ค. 67-1 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่จำนวนมาก
โดยพบว่าในห้วงดังกล่าวมีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 234,076 คน หรือเฉลี่ยวันละ 33,439 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติร้อยละ 8 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ในจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด แบ่งเป็นสัดส่วนผู้โดยสารเส้นทางภายในประเทศร้อยละ 70.16 และผู้โดยสารเส้นทางระหว่างประเทศร้อยละ 29.84 ซึ่งจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นเป็นผลจากการที่รัฐบาลได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีการจัดกิจกรรมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวหลากหลายกิจกรรม
ทั้งนี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันบูรณาการอำนวยความสะดวกและดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงที่มีผู้โดยสารคับคั่ง โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เชิญชวนและแนะนำให้ผู้โดยสารใช้บริการระบบ Self Service ได้แก่ ระบบเช็กอินอัตโนมัติ (Common Use Self Service : CUSS ) ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD หรือ Self-Bag Drop) และระบบตรวจสอบบุคคลด้วยใบหน้า (Biometric System) ที่สามารถอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในขั้นตอนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
รวมทั้งพบว่าผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบอัตโนมัติมีความพึงพอใจ และมีจำนวนผู้ใช้บริการมากขึ้นหลังจากเห็นถึงความสะดวกและรวดเร็ว ขณะเดียวกัน กอญ.ได้ติดตามความคืบหน้าในการติดตั้งช่องทางตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Auto Channel) เพื่ออำนวยความสะดวกในขั้นตอนการตรวจประทับตราหนังสือเดินทาง โดยมีแผนจะนำระบบดังกล่าวมาใช้รองรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่องในโอกาสต่อไป
สำหรับความคืบหน้าโครงการตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ซึ่งได้เสร็จสิ้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น พบว่าส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการและขอให้ ทอท.ดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ตามข้อห่วงใยของประชาชน ซึ่งหลังจากนี้หากรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ผ่านความเห็นชอบคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงปลายปี 2568 นี้ ขณะเดียวกันได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ 2 (สนามบินล้านนา) ควบคู่กันไปเพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศในอนาคต