ชาวอุทัยฯสตาร์ทรถนอนเฝ้านาไฟลุกไหม้วอด รอดตายแต่สูญทั้งรถทั้งเงินสด

อุทัยธานี - อุทาหรณ์เตือนภัย..ชาวอุทัยธานีวัย 60 ปี สตาร์ทรถนอน ก่อนเกิดไฟลุกไหม้วอดทั้งคัน รอดตายหวุดหวิด แต่สูญเงิน 60,000 บาท ที่เพิ่งได้จากการขายข้าวไหม้ไปกับกองเพลิง



เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย​พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพของ อบต.หนองฉาง และ อบต.หนองนางนวล รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์กระบะของชาวบ้านในหมู่บ้าน พื้นที่หมู่ 3 บ้านหนองมะกอก ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.​อุทัยธานี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา(27 ธ.ค.) จึงเร่งระดมกำลังไปช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุซึ่งมีชาวบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงเดินทางมาดูเหตุการณ์กันจำนวนมาก พบรถกระบะแคป ยี่ห้อโตโยต้า​ วีโก้ สีบรอนซ์​เทา หมายเลขทะเบียน​ บน 2936 อุทัยธานี ถูกไฟไหม้จนวอดเสียหายทั้งคัน และพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายภานุพงษ์​ ร่องมะรุด อายุ 60 ปี ​เจ้าของรถคันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าว​ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าและแขนเล็กน้อย ส่วนทรัพย์สิน​ที่เป็นเงินจำนวน 60,000 กว่าบาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ​ ที่อยู่ภายในรถถูกไฟไหม้จนเสียหายทั้งหมด


และล่าสุดเช้าวันนี้(28 ธ.ค.)นายรพีรัฐ ถิระการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 นำผู้สื่อข่าวสอบถามเหตุการณ์ระทึกกับนายภานุพงษ์​ เจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมเล่าว่า ตอนนั้นตนอยู่ที่จุดตรวจช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังจากได้รับแจ้งจากลูกบ้านก็รีบไปยังที่เกิดเหตุ และได้แจ้งไปยังเจ้าที่ป้องกันและบรรเทา​สาธารณภัย​และกู้ภัย ให้มาช่วยดับไฟ ซึ่งทางเจ้าของรถก็เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะเกิดไฟไหม้นั้น ได้จอดสตราท์รถยนต์นอนประมาณ 1 ชั่วโมง​เศษ ก่อนรู้สึกร้อนที่ใบหน้า พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าไปไหม้รถยนต์ จนรีบหนีเอาตัวรอดออกมาได้ดังกล่าว

ด้าน นายภานุพงษ์​เล่าเหตุการณ์​ให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ​ได้ขับรถมานอนเฝ้านาตามปกติทุกวัน ซึ่งปกติแล้วตนจะนอนในเต็นท์​ แต่ด้วยเมื่อคืนนี้อากาศ​ร้อนมาก จึงสตาร์ทรถเปิดแอร์นอนได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ รู้สึกว่าร้อนที่ใบหน้า หลังจากนั้นก็พบว่ามีไฟลุกไหม้ขึ้นที่ห้องเครื่อง


ด้วยความตกใจ ก็ได้รีบวิ่งออกมาจากรถ เพื่อจะหาอะไรมาดับไฟ ซึ่งตรงนั้นมีเหมืองที่สูบน้ำเข้านาก็พยายามใช้กระแป๋งตักน้ำมาดับไฟ แต่ก็ดับไม่สำเร็จ​ จนทำอะไรไม่ถูก ทำให้ไม่ได้หยิบทรัพย์สินที่เป็นเงินสด จำนวน 60,000 กว่าบาท ที่ได้จากการขายข้าวที่เพิ่งเกี่ยวไปเมื่อ 2 วัน พร้อมกับโทรศัพท์มือถือออกมา

จากนั้นก็ได้วิ่งไปตามคนที่อยู่ระแวกดังกล่าวให้มาช่วย และโทรศัพท์แจ้งทางผู้ใหญ่บ้าน ก่อนที่ทางผู้ใหญ่บ้านนั้นจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดับไฟ แต่ด้วยระยะทางที่เข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุนั้นค่อนข้างลำบากจนทำให้ไม่สามารถช่วยดับไฟไว้ได้ทันจนทำให้รถยนต์นั้นถูกไฟไหม้จนวอดทั้งคันดังกล่าว