พระนครศรีอยุธยา - สลด! หึงโหด ผัวยิงเมียดับคาห้องนอน เชื่อเกิดจากหึงหวงหลังทะเลาะกันได้ 2 วัน ตำรวจรู้เบาะแสปิดล้อม โดยคนร้ายมีอาวุธปืนและยิงต่อสู้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญดับ
จากกรณีเมื่อเวลา 23.30 น.คืนวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในห้องนอน บ้านเลขที่ 40/3 หมู่ 4 ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พบร่าง นางจิตรา ยินดีพจน์ ถูกยิงเข้าศีรษะด้านขวา 1 นัด เสียชีวิตคาห้องนอน คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าจะเป็น นายวสันต์ ยินดีพจน์ อายุ 51 ปี สามีผู้ตาย อยู่ระหว่างหลบหนี โดยคนในครอบครัวเล่าว่าอาจจะมาจากการหึงหวง เนื่องจากทั้งคู่มักจะชอบทะเลาะกันบ่อยเรื่องหึงหวง แต่ไม่คิดว่าถึงขั้นลงมือทำร้ายกันจนเสียชีวิต
ต่อมา วันนี้ (25 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปที่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบกับ น.ส.กนกพร อายุ 51 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต พาผู้สื่อข่าวดูบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมเล่าว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนมาทราบข่าวหลานโทร.ไปบอก เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ตนอยู่คนละที่ โดยพฤติกรรมทั้งคู่ที่พบเห็นบางครั้งก็ดีกัน บางครั้งก็ทะเลาะกันบ้างแต่ไม่เคยรุนแรง อย่างมากทำร้ายร่างกาย และช่วงหลังๆ น้องสาวไปพึ่งพาไสยศาสตร์ เพราะตอนหลังเขาบอกว่าเห็นผี ระแวงกลัวผีไปหมด ส่วนสาเหตุเราไม่รู้ว่าเขาทะเลาะถึงขั้นไหน ส่วนน้องเขยจะมีเถียงกัน ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้อะไร เรามาดูบ้านก่อนเพราะลูกๆ หลานๆ ไปโรงพัก ถ้าเป็นไปได้อยากออกให้มามอบตัว มาขอขมากัน
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเบาะแสคาดว่า นายวสันต์ ผู้ก่อเหตุ จะหลบซ่อนตัวในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงประมาณ 600 เมตร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร สภ.ช้างใหญ่ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 50 นาย อาวุธครบครบมือปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว ที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบซ่อนอยู่ด้านใน และเกรงว่าจะเกิดการต่อสู้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัวและมีการขู่ฆ่าล้างครัว
ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เดินทางลงพื้นที่ที่ทราบเบาะแสว่าคนร้ายหลบพักอยู่ ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดพนักงานสอบสวนสอบสวน สภ.บางไทร ได้ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับ นายวสันต์ ยินดีพจน์ อายุ 51 ปี ในข้อกล่าวหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา
พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เราสืบทราบว่าผู้ต้องหาซึ่งมีอาวุธปืนหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านดังกล่าว จึงได้ทำการปิดล้อมเอาไว้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียและจะเริ่มเจรจากับตัวผู้ต้องหา พยายามกันประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงกับบ้านหลังดังกล่าวให้ออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย
จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) เจ้าของบ้าน ที่นายวสันต์ หลบซ่อนตัวอยู่ กล่าวว่า รู้จักกันกับนายวสันต์ เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน ตอน 2 ทุ่มมาที่บ้านบอกว่า เพิ่งจะยิงภรรยาตาย มาขอนอน จึงให้นอนเพราะว่ากลัว แต่ตนไม่เชื่อเพราะพูดแบบนี้มาหลายครั้ง จนเช้ามืดตนออกไปขายของที่ตลาดตามปกติ และมาทราบข่าวว่า นายวสันต์ ไปก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิตมาจริง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าหลบพักอยู่ในบ้านของตน เพราะหวั่นความปลอดภัยในชีวิตและคนในครอบครัว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้โดรนบินเพื่อสำรวจพื้นที่พร้อมกันประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงออกจากที่เกิดเหตุ จากนั้นใช้กำลังเข้าไปปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว พยายามจะเข้าไป คนร้ายได้ยิงปืนยิงตอบโต้ออกมา จึงเกิดการยิงปะทะต่อสู้กันเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 30-40 นัด หลังสิ้นเสียงปืน เจ้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เร่งช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบางไทร ส่วนนายวสันต์ถูกยิงเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภาค 1 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่าตนได้รับรายงานจากท่านผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนถึงช่วงเช้าได้รับรายงานว่าพบตัวผู้ต้องหา มาหลบซ่อนตัวอยู่บ้านหลังหนึ่ง จึงได้ทำการปิดล้อม ใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางไทร ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยปฏิบัติการพิเศษของภาค 1 และกันประชาชนที่อยู่โดยรอบบ้านให้ออกห่าง เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปแสดงตัวเพื่อที่จะจับกุม ผู้ต้องหาได้อาวุธปืนยิงตอบโต้ออกมา กระสุนปืนลอดใต้โล่ออกมาจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 2 นาย
หลังจากการเข้าไปตรวจสอบ พบร่องรอยของการใช้อาวุธปืนทั้งของคนร้ายที่ยิงออกมา และของเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้เข้าไปด้วย พบอาวุธปืนขอวผู้ต้องหา ขนาด 9 มม.ใช้แม็กกาซีนแบบยาว บรรจุกระสุนได้ 20-30 นัด ผู้ต้องหามีบาดแผลถูกยิงหน้าอก นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณห้องโถงของบ้าน ใกล้กับประตูทางเข้าบ้าน
ในส่วนที่ทางญาติมีความสงสัยถึงการปฏิบัติหน้าที่ การชันสูตรพลิกศพ การตรวจสถานที่เกิดเหตุ ตามขั้นตอนของกฎหมายจะตรวจสอบร่วมกับพนักงานสอบสวน อัยการจังหวัด ฝ่ายปกครอง และแพทย์
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยแพทย์ ฝ่ายปกครอง อัยการ เข้าตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุ พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว แล้วเกิดการยิงปะทะกัน ผู้ต้องหาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามทำตามขั้นตอนและยุทธวิธีของตำรวจแล้ว มีการประเมินสถานการณ์แล้วจึงตัดสินใจ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 1 คนที่ 1 ถูกยิงด้วยอาวุธปืน เข้าที่ขาขวา อาการปลอดภัย และคนที่ 2 ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขาซ้าย 1 นัด สะโพกขวา 1 นัด เส้นเลือดใหญ่ขาด อาการสาหัส ขณะนี้ได้เคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลบางไทร ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว