ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-ชาวบัวใหญ่ ผวาไม่กล้าออกจากบ้านไปทำไร่ หาปู หาปลา หลังเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุข่มขืนยายวัย 78 ปีกลางทุ่งนา ไร้แววจะจับคนร้ายได้ ด้านตำรวจภาค 3 สั่งการชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจ.นครราชสีมา และชุดสืบสวน
สภ.บัวใหญ่ เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย ยันมีดีเอ็นเอคนร้าย ขอเวลาทำงาน
จากกรณีที่ 2 ยาย ในอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทาง ไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงส์สกุล กรณีถูกคนร้ายข่มขืน กลางในทุ่งนา เขตพื้นที่ ตำบลดอนตะหนิน อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วง 5โมงเช้าของวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งคุณยายวัย 78 ปี ได้เดินออกไปเก็บฟืน ซึ่งเป็นเชื้อฟื้นใช้สำหรับก่อไฟ แต่ขณะนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย ไม่ทราบอายุ รูปร่างใหญ่เดินเข้ามาด้านหลังคุณยาย ใช้มือปิดตาแก้ผ้าคุณยาย แล้วลงมือข่มขืนคุณยายจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะชิงเงินคุณยาย 420 บาทแล้วหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุคุณยาย ได้วิ่งออกมาขอความบช่วยเหลือจากชาวบ้านในพื้นที่ โดยคุณยายได้เล่าเหตุการณ์ให้ชาวบ้านฟัง ก่อนที่ญาติๆของคุณยายจะพาคุณยายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวใหญ่ แต่มาจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ หลานจึงพาไปร้องทุกข์กับมูลนิธิประวีณาหงสกุล เพื่อขอความช่วยเหลือคืบหน้าทางคดี
ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนไม่กล้าออกไปขุดปูนาช่วงกลางวัน เนื่องจากกลัวว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก นางบัวขาว รวยสวัสดิ์ อายุ 42 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่าชาวบ้านต่างหวาดกลัวมาก ปกติช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตนกับเพื่อนบ้านจะออกขุดปูนา เพื่อเอาไว้ให้ลูกหลาน ในช่วงเดินทางกลับมาบ้าน
แต่หลังจากเกิดข่าว ว่าคุณยายถูกข่มขืนกลางทุ่งนา และตำรวจยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้าออกไปขุดปูนา จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บัวใหญ่ ช่วยเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด ขณะที่ตำรวจสภ.บัวใหญ่ ได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวน ลงพื้นที่หาข่าวติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากในจุดเกิดเหตุเป็นทุ่งนา ไม่มีกล้องวงจรปิดทำให้ยากจะติด ตามจับกุมคนร้ายได้
อีกทั้งคนร้ายเลือกลงมือก่อเหตุในทุ่งนา ห่างจากหมู่บ้านกว่า 300 เมตร ประกอบกับไม่มีใครเห็นรูปพรรณสัณฐานคนร้าย จึงทำให้ยากต่อการจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ยังคงเร่งติดตามจับกุมคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด
ด้านพ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ เร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากคดีดังกล่าวมีผลกระทบสร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ชุดสืบสวนสามารถเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุไว้แล้ว ขณะนี้ได้นำผลดีเอ็นเอไปตรวจสอบ และแบ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีประวัติเคยก่อคดีทางเพศ และคดีอาชญากรรมต่างๆ นำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอเพื่อหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนคนร้ายจะเป็นคนในพื้นที่หรือไม่นั้น จากข้อมูลขณะนี้เป็นไปได้ทั้งหมด ว่าคนร้ายอาจเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำงานสักระยะก่อน