เชียงราย/พะเยา – ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว ครวญหนัก..หลังโควิดฯ-น้ำท่วม เจอวิกฤติฝุ่นพิษ PM2.5 ซ้ำทุกปี ทำไฮซีซันล้านนาสั้นลง ทัวร์จีนหาย-นักท่องเที่ยวต่างชาติลดเหลือ 20%-เที่ยวบินตรงจาก ตปท.เคยมี 7 สายการบิน วันนี้มีแค่เที่ยวเดียวจากมาเลย์ จี้รัฐฟื้นเที่ยวด้วยคน-เที่ยวคนละครึ่ง-ปลุกสัมนาอปท. ดันท่องเที่ยวปี 68
สมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด รายงานว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค.67 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แจ้งสถิติคนเดินทางเข้าเชียงราย 4,912,139 คน เป็นสัดส่วนของนักท่องเที่ยว 4,002,761 คน คิดเป็นร้อยละ 90.05 และเป็นนักทัศนาจร 441,788 คน คิดเป็นร้อยละ 9.94
ซึ่งสร้างรายได้เข้าจังหวัด กว่า 37,760 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 29,882 ล้านบาท และชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ฝรั่งเศส อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ 7,928 ล้านบาท ทำให้มีเที่ยวบินโดยสารจากกรุงเทพฯ-เชียงราย-ภูเก็ต เดือนละกว่า 558 เที่ยวบิน
ขณะที่ จ.พะเยา ในช่วงเวลาเดียวกัน มีผู้ไปเยือนจำนวนประมาณ 1 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจำนวน 801,137 คน แยกเป็นคนไทย 760,941 คน ต่างชาติ 31,196 คน สร้างรายได้เข้าจังหวัด 2,292 ล้านบาท ในช่วงเดือน ธ.ค.2567 สภาพอากาศหนาวเย็นทำให้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยว เช่น กว๊านพะเยา ภูลังกา อุทยานชาติแม่ปืม ภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ดอยผาหมี ดอยตุง ดอยช้าง ดอยวาวี ฯลฯ
นางนงเยาว์ เนตรประสิทธิ์ นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด เปิดเผยว่าอย่างไรก็ตามสิ่งที่ภาคเอกชนอยากให้ทางรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐช่วยสนับสนุนเพิ่มเติมมีอยู่ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ขอให้รัฐบาลขยายต่ออายุโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หลังจากที่ผ่านเปิดลงทะเบียนแล้วมีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 ราย แต่ก็จบโครงไปอย่างรวดเร็ว 2.โครงการคนละครึ่งที่ให้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน และ 3.โครงการดูงาน-สัมมนาของหน่วยงานองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สาเหตุที่ต้องกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย 3 โครงการนี้ เนื่องจากฤดูท่องเที่ยวหรือไฮซีซันภาคเหนือ-ล้านนา สั้นลง จากเดิมที่เคยมีไฮซีซันนานถึงปีละ 4-5 เดือน ตั้งแต่ ต.ค.-ก.พ.แต่ช่วงหลังมานี้เกิดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปหมด ประกอบกับปลายปี 2567 ประสบกับปัญหาน้ำท่วมช่วงต้นไฮด์ซีซั่นนานถึง 1-2 เดือน ทำให้เหลือช่วงไฮซีซันเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น และเมื่อถึงเดือน ม.ค.หรือ ก.พ.2568 ก็ต้องมากังวลกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 อีก
นอกจากนี้แม้อยู่ในช่วงไฮซีซัน สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ โดยจากการสอบถามห้องพักโรงแรมใหญ่ๆ พบว่ามีอัตราเข้าพักเพียง 85-90% จากเดิมที่ควรจะเต็ม 100% ส่วนโรงแรมขนาดเล็กมีอัตราเข้าพักอยู่ที่ 70-80% เท่านั้น
"หากมีการกระตุ้นด้วยโครงการต่างๆ ก็จะช่วยส่งเสริมภาคธุรกิจการท่องเที่ยวได้อีกมาก เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการไม่กล้าจะลงทุนก่อสร้างหรือพัฒนาธุรกิจ เนื่องจากหลังเจอวิกฤติโควิด-19 ต่อมาก็มีน้ำท่วมใหญ่และฝุ่น PM 2.5 ทำให้อัตรานักท่องเที่ยวภาคเหนือ อย่างที่ จ.เชียงราย คือชาวไทย 80-85% ชาวต่างประเทศเพียงแค่ 20%”
และจากเดิมก่อนวิกฤติเคยมีสายการบินตรงจากต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี มาเลเซีย ฯลฯ เข้าเชียงรายกว่า 7 สายการบิน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 1 เที่ยวจากมาเลเซียเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยเดินทางมาด้วยรถยนต์ช่วงเทศกาลตรุษจีนนับพันๆคัน ผ่านเข้ามาทาง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีมากนัอยแค่ไหน ดังนั้นรัฐต้องจัดแคมเปญสนับสนุนจึงจะช่วยกระตุ้นให้ภาคธุรกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วได้