เชียงใหม่- "สว.ก๊อง" อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ประกาศมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์สู้ศึกเลือกตั้งป้องกันแชมป์ หลัง"ทักษิณ"ปิ๊กบ้านเกิดเตรียมเดินสายขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียง ลั่นตั้งเป้าสร้างประวัติศาสตร์กวาด6แสนคะแนนและ ส.อบจ.ทั้ง42เขต ด้าน "พันธุ์อาจ"จากพรรคพลังประชาชน ไม่หนักใจ พร้อมชูนโยบายสู้ มุ่งเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตและนำนวัตกรรมาใช้ ทั้งพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
ความคืบหน้าการสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่(นายก อบจ.เชียงใหม่)และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่(ส.อบจ.เชียงใหม่) ซึ่งวันนี้(23ธ.ค.67)เป็นแรกของการเปิดรับสมัครที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีผู้สมัคร2รายสำคัญที่เดินทางมาถึงก่อนเวลา 08.30น.ที่เริ่มเปิดรับสมัคร คือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย และนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) ที่ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ทำให้เมื่อถึงเวลาเปิดรับสมัครต้องใช้วิธีจับสลากเพื่อให้ได้หมายเลขผู้สมัครที่จะนำไปใช้ในการหาเสียง โดยปรากฏว่านายพันธุ์อาจ ได้หมายเลข 1 และนายพิชัย ได้หมายเลข 2
ทั้งนี้นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ หมายเลข 2 ซึ่งเป็นอดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังยื่นสมัครเสร็จแล้วว่า ในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก จากการทำงานตลอด4ปีที่ผ่านมาที่มีผลงานให้เห็นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม จึงคาดหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากคนเชียงใหม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ อีกสมัย พร้อมทั้ง ส.อบจ.ทั้ง42เขต
ส่วนการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนเชียงใหม่ จะเดินทางกลับบ้านเกิดช่วงวันที่23-25ธ.ค.67เพื่อลงพื้นที่ช่วยหาเสียงด้วยในเบื้องต้นนั้น ยิ่งทำให้มีความมั่นใจในการลงเลือกตั้งครั้งนี้เพิ่มขึ้นเป็นล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นการมาด้วยตัวเอง หลังจากที่ในการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อ4ปีที่แล้วนายทักษิณ ซึ่งอยู่ต่างประเทศ ทำได้เพียงส่งจดหมายและคลิปมาช่วยหาเสียง แต่ได้ผลตอบรับอย่างดียิ่งจนชนะการเลือกตั้ง โดย การเลือกตั้งครั้งก่อนตัวเองได้คะแนนเสียงเลือกตั้ง 400,000 กว่าคะแนน ขณะที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้คาดหวังว่าตัวเองจะได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งกว่า 600,000 คะแนน เป็นประวัติศาสตร์ของการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่
สำหรับเรื่องที่หมายเลขผู้สมัครนายก อบจ.และ ส.อบจ.แต่ละเขตเป็นคนละหมายเลขกันนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ไม่หนักใจใดๆ และเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาในการลงพื้นที่หาเสียง เพราะตลอดช่วง4-5ปีที่ผ่านมา ผู้สมัครทุกคนได้ทำงานอย่างหนักอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเป็นที่รู้จักของประชาชนอยู่แล้ว รวมทั้งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไม่มีเหตุความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น เพราะเป็นการแข่งขันกันด้วยนโยบายและการเสนอตัวเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน
ด้านนายพันธุ์อาจ ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ หมายเลข 1 เปิดเผยว่า มั่นใจเป็นอย่างมากในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ โดยการชูนโยบายที่จะปฏิรูป อบจ.เชียงใหม่ ทั้ง 3 ท.คือ ทุกคน,ทั่วถึง และเท่าเทียม กับ 4 อยู่ คือ อยู่ได้,อยู่ดี,อยู่เย็น และอยู่ยั่งยืน ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหาที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ในกับคนเชียงใหม่ ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนวัตกรรมมาใช้
ในส่วนที่นายทักษิณ จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายพิชัย หาเสียงนั้น นายพันธุ์อาจ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจใดๆ กับเรื่องดังกล่าว เพราะในส่วนของตัวเองมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล มาช่วยลงลงพื้นที่หาเสียงเช่นกัน ซึ่งทั้งสองคนนี้ถือว่าเป็นผู้ที่สร้างความดึงดูดได้เป็นอย่างดีของแต่ละฝ่าย ส่วนเรื่องความรุนแรงในการแข่งขันเลือกตั้งนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมและผู้คนมีอุดมการณ์ทางการเมืองสูง
นอกจากนี้นายพันธุ์อาจ กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนจากพรรคประชาชนมักจะแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วงที่ผ่านมาว่า แม้ที่ผ่านจะไม่ชนะเลือกตั้ง แต่ในหลายท้องถิ่นจะเห็นได้ว่าได้รับคะแนนสูงขึ้นตามลำดับ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะให้ได้ โดยไม่ได้หนักใจหรือกังวลเรื่องบ้านใหญ่ใดๆ เพราะมั่นใจว่ามีทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้และการที่พรรคประชาชนมี ส.ส.เชียงใหม่ 7 เขต ที่ทำงานอย่างหนัก น่าจะมีส่วนช่วยอย่างมาก จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้กันให้มากๆ.
