พิษณุโลก - แม่ทัพภาค 3 ลั่น..“เราพร้อมรบ” แต่ย้ำ 18 ธันวาฯไม่ใช่เส้นตายเรื่อง “ว้าแดง” ระบุปัญหาแนวชายแดนไม่อยากให้ถึงขั้นต้องสู้รบ ชาวบ้านเพิ่งเจอกับอุทกภัยเสียหายมามากพอแล้ว หากเกิดการสู้รบ จะเกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น
วันนี้ (18 ธ.ค.) พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมเสริมทักษะและศักยภาพการปฏิบัติงานการพัฒนาพื้นที่เพื่อเสริมความมั่นคงตามแนวชายแดนระดับจังหวัด ที่ห้องประชุมปางอุบล โรงแรมวังจันทน์ ริเวอร์วิว อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ถึงปัญหาตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า สภาวะปัจจุบัน ปัญหาความมั่นคงของชาติยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญ "มีแนวโน้มความรุนแรงสูง" ซับซ้อนครอบคลุมหลายมิติ และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยากต่อการแก้ไข เกินกว่าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจะรับผิดชอบได้
โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศ ยังคงมีปัญหาที่สำคัญ ที่ต้องได้รับการแก้ไขและบูรณาการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เช่นปัญหาในพื้นที่ชายแดน ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การป้องกัน การบรรเทาสาธารณภัย และปัญหายาเสพติดเป็นต้น
กองทัพภาคที่ 3 จึงได้จัดให้มีการเสริมทักษะและศักยภาพการปฏิบัติงานฯขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติงาน โดยผู้เข้าร่วมการเสริมทักษะและศักยภาพการปฏิบัติงานฯจะเป็นกลไกสำคัญในการบูรณาการประสานงานระดับจังหวัด โดยการจัดทำแผนงานโครงการที่สำคัญในพื้นที่เป้าหมายด้านความมั่นคง ทั้งในส่วนของแผนพัฒนาจังหวัดและแผนงานต่างๆที่อยู่ในจังหวัดให้เป็นรูปธรรมมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาที่มีในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
พล.ท.กิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า กรณีปัญหาแนวชายแดนไม่อยากให้ถึงขั้นต้องสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนนั้น เพิ่งจะประสบอุทกภัยเสียหายมากพอแล้ว หากมีการสู้รบอีก จะเกิดความเสียหายเพิ่มมากมาย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ "เราพร้อมรบ"
“เรื่องกลุ่มว้าแดงนั้นยังคงมีการเจรจาหลายระดับ การใช้กำลังเป็นทางเลือกสุดท้าย ซึ่งความขัดแย้งมีอยู่ทั่วโลก ไม่จำเป็นแล้วก็อย่าไปเพิ่มความขัดแย้งขึ้นไปอีก ส่วนวันที่ 18 ธ.ค.ไม่ใช่วันกำหนดเส้นตาย เพียงแต่ฝ่ายตรงข้ามจะให้คำตอบเท่านั้น ซึ่งทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมตลอดและ ช่วงนี้อยู่ในช่วงฝึกตามวงรอบประจำปี อาจมีการเคลื่อนย้ายกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์”
