กาฬสินธุ์ - ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามจังหวัดกาฬสินธุ์ยิ้มออก บรรยากาศขายกุ้งสดคึกคักก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ เผยเริ่มมีออเดอร์เข้ามาวันละกว่า 30 ตัน กุ้งอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ เหตุพื้นที่เลี้ยงกุ้งลดลงมาก ร้องรัฐบาลควบคุมราคาลูกกุ้งและอาหารกุ้งให้ผู้เลี้ยงอยู่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุ้งก้ามกราม สัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ ที่เลี้ยงกันมากในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ โดยพบว่ามีพ่อค้าคนกลาง และพ่อค้าขายกุ้งก้ามกรามสดส่งออเดอร์เข้ามาจับจองตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อนำไปจำหน่ายทำกำไร และส่งลูกค้าตามร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งเคยทำรายได้ให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้เฉพาะช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถึงหลักแสนบาทต่อรายเลยทีเดียว
นายอาทิตย์ ภูบุญเติม อายุ 54 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบ้านตูม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า บรรยากาศค้าขายกุ้งก้ามกรามเริ่มคึกคักมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว จะมีพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าเร่ ทั้งขาใหม่ ขาประจำ รวมทั้งร้านค้า ร้านอาหาร เอเยนต์ห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่งในภาคอีสานเกือบทุกจังหวัด รวมทั้ง สปป.ลาว เข้ามาติดต่อ วางเงินสดล่วงหน้า และสั่งจองไว้เพื่อนำไปขาย
เป็นการเปิดตลาดให้ลูกค้า นักท่องเที่ยวได้รู้จักจุดพักขายและร้านอาหารที่เปิดบริการเมนูเด็ดจากกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ ซึ่งแต่ละปีจะขายดีมากในช่วงสงกรานต์และปีใหม่ โดยผู้เลี้ยงกุ้งจะเตรียมกุ้งไว้จับขายในช่วงนี้รายละ 2-5 ตัน ตามพื้นที่และตามศักยภาพของแต่ละคน
นายอาทิตย์กล่าวอีกว่า สำหรับตนได้เตรียมกุ้งก้ามกรามไว้ขายช่วงปีใหม่ประมาณ 5 ตัน แต่ทุกวันนี้ก็ทยอยจับขายทุกวัน วันละ 80-100 กก.ตามออเดอร์ ราคาจำหน่ายที่ปากบ่อ กก.ละ 250 บาท ขณะที่พ่อค้าคนกลางจะนำไปขายต่อ กก.ละ 280-500 บาท เพิ่มราคาตามระยะทางและขนาดตัวกุ้งที่คัดไซส์ เป็นกุ้งรวมหรือเล็กใหญ่ ซึ่งราคาแตกต่างกัน ทั้งนี้ บรรยากาศการขายกุ้งที่เริ่มคึกคักก่อนปีใหม่ทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งยิ้มได้ จะได้เงินขายกุ้งไว้เป็นค่าอาหารกุ้ง ค่าพันธุ์ลูกกุ้ง และใช้หนี้ ธ.ก.ส.
“คาดว่าถึงเทศกาลปีใหม่จริงๆ กุ้งก้ามกรามคงขาดแคลน เนื่องจากที่ผ่านมาอากาศวิปริต ทั้งร้อนทั้งฝนตก กุ้งปรับสภาพไม่ทันทยอยตายไปเรื่อยๆ นอกจากนี้คุณภาพพันธุ์ลูกกุ้งไม่ค่อยมาตรฐาน มีอัตรารอดต่ำและราคาสูงตัวละ 0.28-0.32 บาท หากปล่อยเลี้ยง 1 แสนตัว ต้นทุนก็ตกไปแล้ว 28,000-32,000 บาท ให้อาหารวันละ 20 กก.ราคา 800 บาท ตกเดือนละ 24,000 บาท เลี้ยงได้อายุ 5 เดือนจึงจะจับขาย หมดค่าอาหาร 120,000 บาททีเดียว หรือหากพื้นที่เลี้ยงหลายไร่/บ่อ จะต้องเพิ่มปริมาณพันธุ์ลูกกุ้ง และต้องสิ้นเปลืองต้นทุนมากกว่านี้อีกหลายเท่า” นายอาทิตย์กล่าว
ทั้งนี้ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยควบคุมราคาพันธุ์ลูกกุ้งก้ามกราม และค่าอาหารกุ้งด้วย เพราะปรับขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาระของผู้เลี้ยงกุ้ง ขณะที่ราคาขายกุ้งสดที่ปากบ่อยังยืนราคาเดิม กก.ละ 250 บาทมาเกือบ 20 ปีแล้ว เป็นสาเหตุให้พื้นที่เลี้ยงกุ้งลดลง จากเดิมเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมามีพื้นที่เลี้ยงใน ต.บัวบาน ต.นาเชือก ต.เขาพระนอน ต.คลองขาม อ.ยางตลาด และ ต.ลำคลอง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ หลายพันไร่
ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ร้อยไร่ ผู้เลี้ยงกุ้งหลายรุ่นหลายคนต้องล้มเลิกกิจการไปเพราะขาดทุน หากต้นทุนยังไต่ขึ้นไม่จำกัด ดีไม่ดีในอนาคตอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกราม สัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่ง และสร้างชื่อเสียงให้จังหวัดกาฬสินธุ์อาจจะหมดไปอย่างน่าเสียดายเพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว