xs
xsm
sm
md
lg

จับหลานเนรคุณอ้างแค้นโดนด่า-ดูถูก พาคู่หูดักมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง-บีบคอ ชิงสร้อยป้าแท้ๆ วัย 71

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิษณุโลก - จับหลานเนรคุณ พาคู่หูทำตัวเป็น "โจรมุมตึก" กระโดดขวางหน้ารถ-ผลัก-บีบคอป้าแท้ๆ วัย 71 ชิงสร้อยพระเลี่ยมทองหนัก 3 บาท ขายได้เงินมาแบ่งกัน อ้างแค้นโดนด่า พูดจาดูถูกเป็นประจำ


วันนี้ (17 ธ.ค.) พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก, พ.ต.ท.วรการ กาศเกษม รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก สั่งการให้ชุดสืบสวนถือหมายค้นศาลจังหวัดพิษณุโลกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/1 หมู่ที่ 1 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก ที่นายองอาจ (ขอสงวนนามสกุล) เป้าหมายต้องสงสัยก่อเหตุชิงทรัพย์แล้วหลบหนี พักอาศัยอยู่

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุดังกล่าวจากนางสุมาลี ชมภู อายุ 71 ปี (ผู้เสียหาย) เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม 67 ว่าขณะกำลังขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างเดินทางกลับจากขายของเพื่อจะเข้าบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านราชประชารัฐ หมู่ 3 ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก ถูกชายไม่ทราบชื่อ นามสกุล ลักษณะผอม สูงประมาณ 160 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกปิดบังใบหน้า พุ่งออกมาจากมุมมืดบริเวณข้างทางซึ่งกำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้าน

โดยคนร้ายยืนขวางหน้ารถและใช้มือผลักยันจักรยานยนต์ของนางสุมาลี จากนั้นได้ใช้มือดันและบีบบริเวณคอ แล้วใช้มืออีกข้างกระชากสร้อยทองคำหนัก 3 บาท ผู้เสียหายจึงได้พยายามฉุดกระชากไม่ให้คนร้ายได้ทรัพย์สินไป พร้อมทั้งร้องให้คนช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายได้วิ่งหลบหนีขึ้นรถกระบะตู้ทึบจอดห่างจากมุมตึก 2-3 เมตร โดยนางสุมาลีไม่สามารถจดจำหมายเลขทะเบียนและหมวดอักษรของรถคันดังกล่าวได้ ทราบเพียงมุ่งหน้าเข้าไปในหมู่บ้านนิคมบ้านกร่าง


คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เป็นคดีที่ได้รับความสนใจ ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ชุมชน ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก, พ.ต.อ.จาตุรนต์ บุษปะเกษ รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ให้เร่งรัดสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

และเมื่อตำรวจสืบสวน-ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี กระทั่งทราบว่า นายองอาจ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำ น่าจะหลบหนีไปที่บ้านหลังดังกล่าว จึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้น กระทั่งจับกุมนายองอาจได้ในที่สุด

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุร่วมกับนายรุ่ง ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของผู้เสียหาย คือ นางสุมาลี ชมพู วัย 71 ปี เนื่องจากโกรธแค้นผู้เสียหายที่ชอบดุด่าและพูดจาดูถูก และให้การอีกว่าหลังก่อเหตุได้นำทองไปขายได้เงินประมาณ 5,000 บาท จากนั้นนำเงินมาแบ่งกัน 2 คน

ต่อมา จนท.ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายรุ่ง ตรวจค้นและยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด คือ รถกระบะอีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน 3 ฒว 7394 กทม. จำนวน 1 คัน เสื้อยืดคอปกสีเขียวและเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาลใช้ปกปิดใบหน้า, กางเกง, รองเท้าแตะ, โทรศัพท์มือถือ และเงินสดคงเหลือ 2 พันบาท ซุกกล่องภายในรถยนต์กระบะพร้อมนำตัวนายอาจ และนายรุ่ง ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น