ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นเปิดปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอบ้านไผ่ ประเดิมจับสองหนุ่มสาวคู่รักพร้อมยึดยาบ้ากว่าหมื่นเม็ด เผยฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ ก่อนพ้นโทษได้รู้จักเครือข่ายค้ายานรก สารภาพยังไม่ทันได้ขายยาบ้าและยังไม่ได้จ่ายเงินให้เครือข่ายที่ส่งยาบ้าให้
เช้าตรู่วันนี้ (17 ธ.ค.) ภายหลังนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ปล่อยแถวปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 164/3 หมู่ 2 ชุมชนสะพานห้วยจิก ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น สามารถจับกุมตัว นายธนชัย หรือเจ บุญตะนัย อายุ 31 ปี ที่อยู่ 59 หมู่ 7 ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และนางสาวธาราลักษ์ หรือยุ้ย ทวีแปลง อายุ 36 ปี ที่อยู่ 164/3 หมู่ 2 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พร้อมยาบ้าจำนวน 11,969 เม็ด หลังได้นำยาบ้าใส่ถังสีไปฝังที่หลังบ้าน
นายธนชัยสารภาพว่าตนต้องโทษในคดีครอบครองยาบ้าจำนวน 104 เม็ดเมื่อปี 2564 และเพิ่งพ้นโทษ จากเรือนจำอำเภอพล จ.ขอนแก่น เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และในระหว่างที่ต้องโทษได้รู้จักเครือข่ายยาเสพติด จากนั้นได้ติดต่อขอยาบ้ามาขาย โดยได้นำยาบ้าจำนวน 12,000 เม็ดมาเตรียมขายให้ลูกค้า แต่ยังหาตลาดไม่ได้ ก่อนจะถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวได้เสียก่อน และยังไม่ได้จ่ายเงินให้เครือข่าย พร้อมทั้งถูกยึดทรัพย์รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน กฉ 9066 มหาสารคาม 1 คัน (ราคาประมาณ 500,000 บาท)
จากการตรวจสอบประวัติของนายธนชัย บุญตะนัย พบเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วจำนวน 3 ครั้ง ส่วนนางสาวธาราลักษ์ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้ง
นอกจากนี้ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านหนองแวงไร่ หมู่ 1 หมู่ 8 และหมู่ 9 ได้นำตัวผู้เสพยาเสพติดมาปรับทัศนคติ หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบพบจำนวน 26 ราย และเตรียมนำตัวเข้าบำบัดที่ศูนย์ CI อำเภอบ้านไผ่ ตามความสมัครใจ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ให้ข้อคิดแก่ผู้เสพเพื่อให้เลิกและไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป
นายไกรสรกล่าวว่า ขณะนี้หลังจากที่จังหวัดขอนแก่นได้มีการเปิดปฏิบัติการเร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาต่อเนื่องเข้าปีที่ 2 ทำให้ขณะนี้ผู้ที่เสพยาเสพติดมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ผู้เสพได้นำตัวเข้าศูนย์ CI ของทั้ง 26 อำเภอ พบว่าหลายคนสามารถเลิกขาดจากยาเสพติด และสามารถหางานประจำทำได้ มีรายได้และไม่หันไปยุ่งกับยาเสพติดอีก ซึ่งแม้ว่าจำนวนผู้เสพยาเสพติดจะลดลง
แต่ทางจังหวัดขอนแก่นจะยังคงเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดต่อไป เพราะเนื่องจากแหล่งผลิตยังคงมีการผลิตมากขึ้น เพราะดูจากการที่นำยาบ้ามาให้เครือข่ายโดยไม่เก็บเงินค่ายาเสพติด แสดงให้เห็นว่ามีการผลิตยาบ้าที่มีปริมาณมาก และได้ทะลักเข้าประเทศ แม้ว่าจะมีการปราบปรามอย่างเข้มข้น แต่ก็จะต้องมีการปราบปรามที่เข้มข้นด้วย